รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 11 ธันวาคม 2551

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 11, 2008 11:09 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 11 ธ.ค. 2551

SUMMARY:
  • ธนาคารโลกหั่น GDP ไทยปีหน้าโตร้อยละ 2
  • กำลังซื้อลด ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตขยายตัวแค่ร้อยละ 1.45 ต่อปี
  • ส่งออกจีนเดือนพฤศจิกายนมีแนวโน้มหดตัว
HIGHLIGHT:
1. ธนาคารโลกหั่น GDP ไทยปีหน้าโตร้อยละ 2
  • ธนาคารโลกประเมิน GDP ของไทยปีหน้าโตร้อยละ 2 ต่ำสุดในรอบ 11 ปี โดยเป็นจากผลการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่หดตัวรุนแรงเหลือโตแค่ร้อยละ 0.9 ต่อปี ซึ่งจะกระทบการส่งออกและการท่องเที่ยว พร้อมคาด GDP ไตรมาส 4 ปีนี้ขยายตัวร้อยละ 0.8 จากผลกระทบเศรษฐกิจโลกและปัญหาการเมือง โดยการชะลอตัวของ GDP ปีหน้าจะทำให้ภาคการส่งออกที่แท้จริงขยายตัวได้เพียงร้อยละ 2 ชะลอลงจากปีนี้ที่ขยายตัวได้ร้อยละ 6.9
  • สศค. วิเคราะห์ว่าการที่ธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์ GDP ของประเทศไทยในปีหน้า จากเดิมร้อยละ 3.6 ลดลงเหลือร้อยละ 2 นั้น เป็นผลจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และปัญหาการเมืองภายในประเทศ ทำให้ภาคการส่งออกชะลอตัว และนักลงทุนขาดความเชื่อมั่น อย่างไรก็ตาม รัฐบาลชุดใหม่ควรเร่งแก้ปัญหาโดยการหาตลาดส่งออกใหม่ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลกน้อย และเร่งการลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้สามารถเติบโตได้ในระยะยาว
2. กำลังซื้อลด ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตขยายตัวแค่ร้อยละ 1.45 ต่อปี
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยข้อมูลการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต เดือน ต.ค. 51 ขยายตัวแค่ร้อยละ 1.45 ต่อปี ชะลอลงจากเดือน ก.ย. ที่เคยขยายตัวถึงร้อยละ 15.56 ต่อปี เป็นการลดลงในทุกประเภทการใช้จ่าย โดยเฉพาะยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในประเทศที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 1.58 ต่อปี จากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 18.87 ต่อปี ขณะที่ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในต่างประเทศขยายตัวร้อยละ 5.28 ต่อปี ชะลอลงจากเดือนก่อนทีขยายตัวร้อยละ 18.36 ต่อปี สำหรับสินเชื่อคงค้างขยายตัวชะลอลงที่ร้อยละ 5.12 ต่อปี
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ชะลอตัวลงมาก สอดคล้องกับภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ เดือน พ.ย. 51 ล่าสุดที่หดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบปี ที่ร้อยละ -4.6 ต่อปี ส่งผลให้ช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาส 4 ปี 51 ขยายตัวได้เพียงร้อยละ 1.9 ต่อปี สะท้อนถึงกำลังซื้อที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศและความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม หากปัจจัยทางการเมืองคลี่คลายลง คาดว่าจะช่วยฟื้นความเชื่อมั่น และส่งผลดีต่อการบริโภคภาคเอกชนสามารถขยายตัวเพิ่มขึ้นได้
3. ส่งออกจีนเดือนพฤศจิกายนมีแนวโน้มหดตัว
  • การส่งออกของจีนมีแนวโน้มว่าจะหดตัวลงในเดือนพ.ย. เป็นไปตามการลดลงอย่างมากของเครื่องชี้ด้านการผลิตภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นการส่งสัญญานว่าเศรษฐกิจจีนอาจจะชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดไว้เดิม โดยหากการส่งออกในเดือนพ.ย. หดตัวลงจะถือเป็นการหดตัวครั้งแรกตั้งแต่เดือนมิ.ย. ปี 2001 ที่หดตัวลงอร้อยละ -0.6 ต่อปี ทั้งนี้ การชะลอตัวลงของการส่งออกของจีนคาดว่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการส่งออกของประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ได้แก่ ไต้หวัน และเกาหลี ที่หดตัวลงร้อยละ -23 และ -18 ต่อปี ตามลำดับ
  • สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มว่าจะชะลอตัวลงอย่างชัดเจน ตามการส่งออกของจีนที่คาดว่าจะชะลอตัวลงตามเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของจีนที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้อุปสงค์ต่อสินค้าส่งออกของจีนลดลง นอกจากนี้ เศรษฐกิจภายในประเทศของจีนยังส่งสัญญานชะลอตัวลงด้วย โดยดูได้จากอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 4.0 ต่อปีและลดลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ต.ค. ของจีนชะลอตัวลงมาอยู่ที่ร้อยละ 8.2 ต่อปี ถือเป็นการขยายตัวต่ำสุดตั้งแต่ปี 2001

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ