รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 16 ธันวาคม 2551

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 16, 2008 12:11 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 16 ธ.ค. 2551

SUMMARY:
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทยแนะรัฐบาลใช้มาตรการทางการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • ภาคอุตสาหกรรมจีนขยายตัวต่ำสุดในรอบ 7 ปี
  • ญี่ปุ่นเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระลอกใหม่
HIGHLIGHT:
1. ศูนย์วิจัยกสิกรไทยแนะรัฐบาลใช้มาตรการทางการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • ศูนย์วิจัยธนาคารกสิกรไทยออกรายงานวิเคราะห์ว่า แม้ว่าความตึงเครียดทางการเมืองในประเทศจะคลี่คลายลงภายหลังจากมีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี แต่รัฐบาลชุดใหม่จะเผชิญความยากลำบากในการบริหารประเทศ โดยเฉพาะจากปัญหาผลกระทบของวิกฤติเศรษฐกิจและการเงินโลกต่อภาคการส่งออกและธุรกิจเอสเอ็มอี ปัญหาการว่างงาน และความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ รัฐบาลควรใช้นโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการผลักดันงบประมาณกลางปี 1 แสนล้านบาทหรืออาจขยายวงเงินเพิ่มขึ้น เร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณและออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรประเมินว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวที่ 1.0-2.0% ในไตรมาสสุดท้ายของปี และปี 2552 เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ 2.5-3.5%
  • สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 มีสัญณาณชะลอตัวลง และคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ต่ำถึงไม่ขยายตัวเลย เนื่องจากการชะลอตัวในภาคการส่งออกและอุปสงค์ภายในประเทศ สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2552 นั้น คาดว่าจะชะลอตัวลงจากปี 51 เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ สศค. จะมีการประกาศตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2551 และ 2552 ในวันที่ 24 ธ.ค. 51 นี้
2. ภาคอุตสาหกรรมจีนขยายตัวต่ำสุดในรอบ 7 ปี
  • เอพี รายงานว่า การขยายตัวของผลผลิตในภาคอุตสาหกรรมของจีนชะลอตัวอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี สำนักงานสถิติจีน ระบุว่า ในเดือน พ.ย. ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนขยายตัวเพียงร้อยละ 5.4 เมื่อเทียบกับปีก่อนและลดลงจากเดือน ต.ค.อยู่ที่ ร้อยละ 8.2 ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2544 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจและการเงินโลก ส่งผลต่อการชะลอตัวของการค้าและการลงทุนในจีน ประกอบกับอัตราว่างงานในเมืองไปปรับตัวสูงถึงร้อยละ 12 ทั้งนี้ เจพี มอร์เกน ระบุว่าการขยายตัวของภาคการผลิตด้านอุตสาหกรรมของจีนมีแนวโน้มที่จะลดลงอีก ในเดือน ธ.ค.
  • สศค. วิเคราะห์ว่าวิกฤตการเงินโลกในปัจจุบันส่งผลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนมูลค่า 4 ล้านล้านหยวน อาจจะไม่เพียงพอต่อการฟื้นฟูความเชื่อมันของนักลงทุนในทันที ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและมีผลการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก จึงมีความเป็นไปได้ที่ทางการจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีกเร็วๆนี้ เพื่อกระตุ้นการค้าการลงทุนการบริโภคภายในประเทศและลดอัตราการว่างงาน
3. ญี่ปุ่นเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระลอกใหม่
  • ญี่ปุ่นเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระลอกใหม่ ทำให้ยอดเงินของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมีมูลค่าทั้งสิ้น 23 ล้านล้านเยน ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่จะครอบคลุมถึงโครงการให้เงินกู้ยืมแก่พนักงานชั่วคราวที่ตกงาน ซึ่งมีสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของแรงงานญี่ปุ่นทั้งหมด มาตรการช่วยเหลือธุรกิจที่ประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง โดยธนาคารที่รัฐฯให้การสนับสนุนจะเข้าซื้อหนี้ระยะสั้นของธุรกิจ โดยมีวงเงินสูงถึง 3 ล้านล้านเยน การขยายวงเงินช่วยเหลือสถาบันการเงินจาก 2 ล้านล้านเยนเป็น 12 ล้านล้านเยน และการปรับลดอัตราภาษีที่อยู่อาศัยและภาษีอื่นๆ อย่างไรก็ตาม มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว ยังอยู่ระหว่างการขออนุมัติงบประมาณจากสภาของญี่ปุ่น
  • สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นถือเป็นประเทศหลักแห่งแรกที่เข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ โดยเศรษฐกิจมีการหดตัวในไตรมาสที่ 3 ปี 2551 ที่ร้อยละ -0.5 ต่อปี ต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 2 ที่มีการหดตัวร้อยละ -3.8 ต่อปี อย่างไรก็ตาม ประเทศญี่ปุ่นกำลังประสบปัญหาภาคการคลังที่มีภาระหนี้สาธารณะต่อ GDP สูงกว่าร้อยละ 180.0 ซึ่งจะทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นอาจมีข้อจำกัดในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลังในระยะต่อไป หากวิกฤตเศรษฐกิจโลกยืดเยื้อในอนาคต

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ