รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 18 ธันวาคม 2551

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 18, 2008 11:16 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 18 ธ.ค. 2551

SUMMARY:
  • สทท.คาดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 12.8 ล้านคน
  • BOI-กรมส่งออกโรดโชว์เจาะตลาดเครื่องไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์
  • โอเปกลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล รัสเซีย อาเซอร์ไบจานร่วมด้วยลดอีก 3 แสนบาร์เรล
HIGHLIGHT:
1. สทท.คาดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 12.8 ล้านคน
  • ประธานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า ปี 52 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยประมาณ 12.8 ล้านบาท มีรายได้เพียง 4.6 แสนล้านบาท ลดลงร้อยละ 11.0 เมื่อเทียบกับปี 50 เนื่องจากภาพรวมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวปี 52 ตั้งแต่ไตรมาส 1 และ 2 ยังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การปิดสนามบินและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ในขณะที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่าในปี 52 จะมีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยจำนวน 14.5 ล้านคน ซึ่งเท่ากับปี 51
  • สศค. วิเคราะห์ว่า จากเหตุการณ์การปิดสนามบินในช่วงปลายเดือนพ.ย.-ต้นเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบโดยตรงต่อจิตวิทยาของนักท่องเที่ยวต่างประเทศจนถึงปลายปี 52 อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลใหม่สามารถฟื้นความเชื่อมั่นกลับมาได้เร็วขึ้น อาจทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่สทท.ประเมินไว้ที่ 12.8 ล้านคน อย่างไรก็ดี ในช่วง 10 เดือนแรกปี 51 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทย 12.4 ล้านคน หรือขยายตัวร้อยละ 6.9 ทั้งนี้ หากการท่อเที่ยวไม่ฟื้นตัว จะส่งผลลบต่อการจ้างงานภาคบริการอย่างมาก
2. BOI-กรมส่งออกโรดโชว์เจาะตลาดเครื่องไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์
  • ดร.อรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการคณะกรรมการเส่งเสริมการลงทุน (BOI) กล่าวว่าอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของไทยยังอยู่รอดได้ เพราะไทยผลิตสินค้าคุณภาพ โดย BOI ได้หารือกับกรมส่งเสริมการส่งออกในการร่วมรับมือกับการส่งออกปี 2552 ที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง ทั้งนี้ BOI และกรมส่งเสริมการส่งออกจะทำงานร่วมกันในการโรดโชว์ต่างประเทศที่เป็นตลาดหลักและตลาดใหม่ โดยเฉพาะตลาดตะวันออกลางและประเทศแอฟริกาใต้ ที่มีแนวโน้มนำเข้าจากไทยเพิ่มมากขึ้น เพราะเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าไทย ซึ่งในการทำตลาดใหม่จะใช้จุดเด่นเรื่องคุณภาพเป็นจุดขาย
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 และอันดับ 2 ของไทย โดยคิดเป็นสัดส่วนมูลค่าการส่งออกร้อยละ 20.1 และ 11.2 ของมูลค่าส่งออกทั้งหมดตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ในเดือน พ.ย. 51 มูลค่าการส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าหดตัวลงร้อยละ -4.2 และ -16.0 ต่อปีตามลำดับ แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นของภาครัฐที่จำเป็นจะต้องเร่งออกมาตรการเพื่อกระตุ้นยอดขายทั้งในและต่างประเทศให้เติบโตเพิ่มขึ้น
3. โอเปกลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล รัสเซีย อาเซอร์ไบจานร่วมด้วยลดอีก 3 แสนบาร์เรล
  • ที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพื่อการส่งออก (โอเปก) ประกาศลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นการลดครั้งที่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมาตั้งแต่เริ่มมีการกำหนดโควตาการผลิตน้ำมันเป็นครั้งแรกในปี 1982 โดยมีผลในวันที่1 มกราคม เพื่อพยุงราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ ขณะที่อาเซอร์ไปจาน และรัสเซีย ยังเปิดเผยว่าทั้ง 2 ประเทศพร้อมที่จะลดกำลังการผลิตลงด้วยเช่นกันที่ประเทศละ 3 แสนบาร์เรลต่อวัน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงพลังงานของรัสเซีย ได้เปิดเผยว่า ยังไม่มีความเร่งด่วนในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกกับกลุ่มโอเปก
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรลต่อวันของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพื่อการส่งออก (โอเปก) มาจากการที่ราคาน้ำมันลดต่ำลงหลังจากที่มีการเก็งกำไรอย่างมากในช่วงกลางปีที่ผ่านมา การปรับลดกำลังการผลิตในครั้งนี้ จะทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นได้บ้างในระยะสั้น ส่วนในระยะยาวจะขึ้นอยู่กับอุปสงค์ในตลาดโลก ซึ่งเป็นปัจจัยลบต่อประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง แต่เป็นปัจจัยด้านบวก สำหรับประเทศที่กำลังเข้าสู่ภาวะเงินฝืด โดย สศค.คาดว่าในปีหน้า ราคาน้ำมันดิบดูไบจะอยู่ในช่วง 50 — 60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ