Macro Morning Focus ประจำวันที่ 29 ธ.ค. 2551
SUMMARY:
- ออมสินให้กู้เป็นแสน ผ่อนดีลดดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.25
- อุตสาหกรรมยานยนต์ปรับแผนรับมือวิกฤตหลังยอดขายพ.ย.51ลดลง
- ภาคอุตสาหกรรมจีนเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจโลก กำไรลดลงร้อยละ 26
HIGHLIGHT:
1. ออมสินให้กู้เป็นแสน ผ่อนดีลดดอกเบี้ยอีกร้อยละ 0.25
- ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารได้ปรับเงื่อนไขการปล่อยกู้ในโครงการธนาคารประชาชนเป็นกรณีพิเศษ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้เดิมที่มีประวัติการชำระหนี้ดี แต่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ให้มีโอกาสได้รับสินเชื่อเพิ่มขึ้นจากเดิม โดยกู้เงินได้เพิ่มกว่าเดิมรายละไม่เกิน 1 แสนบาท โดยไม่ต้องนำหลักทรัพย์มาค้ำประกันเพิ่ม โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ1ต่อเดือน หรือประมาณร้อยละ 23 ต่อปี ซึ่งหากลูกหนี้ชำระต่อเนื่องครบ 18 เดือน จะปรับลดดอกเบี้ยลงให้อีกร้อยละ 0.25
- สศค. วิเคราะห์ว่า ธนาคารออมสินเป็นสถาบันการเงินของรัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือของรัฐบาลที่จะใช้กระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือประชาชน การขยายวงเงินกู้ ดอกเบี้ยต่ำ และการลดดอกเบี้ยให้กับลูกค้าที่ผ่อนชำระตรงเวลา จะทำให้ ลูกค้าเดิมของธนาคารมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นและสร้างแรงจูงใจให้ผ่อนหนี้ตรงเวลา ในขณะที่ลูกค้ารายใหม่ก็จะมีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านการบริโภค โดยเน้นให้เงินถึงมือประชาชน เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจซบเซา
2. อุตสาหกรรมยานยนต์ปรับแผนรับมือวิกฤตหลังยอดขายพ.ย.51ลดลง
- ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เผยว่า สถานการณ์ตลาดรถยนต์ในปี 52 ทั้งในประเทศและส่งออกคาดว่าจะหดตัวลงที่ร้อยละ 10-20 ต่อปี โดยดูจากยอดขายรถยนต์เดือนพ.ย.51 ที่ลดลงร้อยละ 20-30 ต่อปี จึงนำมาเป็นสมมติฐานในปี 52 ส่วนแนวทางในการแก้ไขได้แนะนำให้ผู้ประกอบการเตรียมพร้อมในหลายๆด้าน เช่น หาตลาดใหม่ ขณะที่ภาคการผลิตต้องปรับสายการผลิตให้สอดคล้อง เช่น เพิ่มระยะเวลาที่ผลิตรถสำเร็จรูปให้ยาวขึ้นเพื่อให้การทำงานยังมีต่อเนื่อง รวมทั้งการจัดการในการบริหารองค์กรให้มีประสิทธิภาพ
- สศค. วิเคราะห์ว่า ปัจจัยความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจจากวิกฤตการณ์การเงินของโลก และปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมืองทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ส่งผลทำให้ยอดขายรถยนต์เดือนพ.ย.51 ที่ลดลง โดยส่วนหนึ่งมาจากปริมาณจำหน่ายรถจักรยานยนต์เดือนพ.ย.หดตัวที่ร้อยละ -3.3 ต่อปี เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรเริ่มปรับตัวลดลง ซึ่งส่งผลต่อกำลังซื้อของประชาชนในภูมิภาค อย่างไรก็ตามปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งยังคงขยายตัวในระดับสูงที่ร้อยละ 33.2 ต่อปี เนื่องจากปัจจัยฐานต่ำในปีที่ผ่านมา และราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง
3. ภาคอุตสาหกรรมจีนเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจโลก กำไรลดลงร้อยละ 26
- สำนักสถิติแห่งชาติจีนเผย ตัวเลขกำไรสุทธิของบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาลดลงกว่าร้อยละ 26 ต่อปี หลังจากเผชิญภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย โดยตัวเลขกำไรสุทธิของบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีรายได้ต่อปีเกิน 5ล้านหยวน ขยายตัวเพียงร้อยละ 4.9ต่อปี หรือประมาณ 2.41 ล้านล้านหยวนในช่วงเดือน ม.ค.-พ.ย. นับเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับจากเริ่มมีการเก็บข้อมูลในปี 2542 นอกจากนั้นตัวเลขเครื่องชี้ที่สำคัญต่างๆเช่น มูลค่าการส่งออก และ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ลดลงในช่วงเดือนที่ผ่านมา ยังบ่งบอกว่าประเทศจีนซึ่งถือว่าเป็นไม่กี่ประเทศมหาอำนาจที่ยังคงมีเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ กำลังได้รับผลกระทบที่รุนแรงจากวิกฤติในครั้งนี้
- สศค. วิเคราะห์ว่า เนื่องจากเศรษฐกิจจีนมีการเพิ่งพาภาคการส่งออกในสัดส่วนที่สูงดังนั้นเมื่อประเทศคู่ค้าประสบปัญหาทางเศรษฐกิจจึงได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดี ภาครัฐบาลจีนได้รีบเข้ามาแก้ไขโดยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 4 ล้านล้านหยวน ซึ่งใช้การเพิ่มรายจ่ายของรัฐบาลโดยการลงทุนในที่อยู่อาศัย, ทางรถไฟ และโครงการใหม่ๆตลอดจนถึงปี 2553 ประกอบกับตัวเลขหนี้สินภาคครัวเรือนที่ต่ำและอัตราการออมที่สูงทำให้มีโอกาสที่จะกระตุ้นการบริโภคของประชาชนได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะผลักดันเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ร้อยละ 8 ต่อปี ในปี 2552
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th