รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2551

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 30, 2008 13:50 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 30 ธ.ค. 2551

SUMMARY:
  • ดัชนีอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. ติดลบร้อยละ 8.36 ต่ำสุดในรอบ 6 ปี 9 เดือน
  • ตลาดหลักทรัพย์ปรับแผนแมชชิ่งฟันด์ ปรับลดกองทุนขนาดเล็ก
  • ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูง หลังอิสราเอลถล่มฉนวนกาซ่าและโอเปคลดกำลังการผลิตเพิ่ม
HIGHLIGHT:
1. ดัชนีอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. 51 ต่ำสุดในรอบ 6 ปี 9 เดือน
  • สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือน พ.ย. 51 ติดลบถึงร้อยละ 8.36 ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ในรอบปี 51 นับเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี 9 เดือน โดยอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ได้แก่ กลุ่มเครื่องประดับ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เม็ดพลาสติก และยานยนต์
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมที่หดตัวลดลงนั้น ยังคงได้รับปัจจัยเสี่ยงที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่องต่อไป โดยได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจโลก และความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมที่ผลิตเพื่อการส่งออกเป็นหลัก เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมอิเลกทรอนิกส์ เครื่องประดับ และยานยนต์ ซึ่งสอดคล้องกับภาคการส่งออกที่มีมูลค่าการส่งออกรวมในรูปดอลลาร์สหรัฐในเดือน พ.ย. 51 ที่หดตัวร้อยละ -18.6 ต่อปี อย่างไรก็ตาม ภาครัฐจำเป็นต้องดูแลสภาพคล่องให้แก่ภาคธุรกิจเพื่อบรรเทาผลกระทบดังกล่าวในระยะสั้นต่อไป
2. ตลาดหลักทรัพย์ปรับแผนแมชชิ่งฟันด์ ปรับลดกองทุนขนาดเล็ก
  • ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปรับแผนจัดสรรเงินสำหรับการลงทุนในกองทุนร่วมลงทุน (แมชชิ่งฟันด์) โดยยกเลิกการระดมทุนกองขนาดเล็ก มูลค่า 400 ล้านบาท คงเพียงแมชชิ่งฟันด์เพื่อผู้ลงทุนสถาบันเพียงกองเดียว คาดว่าจะมีเม็ดเงินจากตลาดหลักทรัพย์จัดสรรเข้าสู่กองทุนแมชชิ่งฟันด์ประมาณ 2,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตลาดจะร่วมลงทุนในกองทุนประเภทนี้เพียง 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีแผนเชิญบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ประมาณ 10 ราย ที่มีกระแสเงินสดเหลือจำนวนมากเข้ารวมลงทุนด้วย
  • สศค. วิเคราะห์ว่าในภาวะที่ราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้ปรับตัวลดลงต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน การจัดตั้งกองทุนร่วมลงทุน (แมชชิ่งฟันด์) ที่มีขนาดกองทุนใหญ่ ถือเป็นแนวทางส่งเสริมการลงทุนในหุ้นและสร้างโอกาสที่ดีในการลงทุนหุ้นทีมีราคาถูกในปัจจุบัน ทั้งนี้ หากดำเนินการรวมกองทุนแมชชิ่งฟันด์เป็นกองเดียวจะทำให้การบริหารจัดการได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในกองทุนเพิ่มขึ้น
3. ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูง หลังอิสราเอลถล่มฉนวนกาซ่าและโอเปคลดกำลังการผลิตเพิ่ม
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งสูงถึงร้อยละ 14 ภายในเวลาเพียงข้ามคืน ผลจาการที่อิสราเอลบุกโจมตีที่ตั้งของกลุ่มฮามาส กองกำลังของปาเลสไตน์ ทำให้เกิดความกังวลว่าสงครามที่เกิดขึ้นอาจเป็นอุปสรรคต่อการผลิตและขนส่งน้ำมันดิบ ที่มีฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง อีกทั้งกลุ่มโอเปคได้ตัดสินใจลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เพื่อพยุงราคาน้ำมันที่พุ่งดิ่งลง จาก 147.27 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเมื่อเดือนก.ค.51 มาแตะระดับ 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ก่อน ตามอุปสงค์ที่ชะลอตัวตามเศรษฐกิจโลก
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ราคาน้ำมันดิบที่เคยแตะระดับสูงสุดเมื่อเดือนก.ค.51 เป็นผลมาจากอุปสงค์ที่สูงขึ้นและการเก็งกำไร ทั้งนี้ เมื่อเศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณชะลอตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ราคาน้ำมันจึงลดลงตาม อย่างไรก็ดี ความไม่สงบในตะวันออกกลาง มีผลให้ ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นในช่วงข้ามคืนนั้น ตามประวัติศาสตร์แล้ว ความไม่สงบในในตะวันออกกลางจะทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นในช่วงแรกๆเท่านั้น เนื่องจากความตื่นตระหนกของตลาด แต่หลังจากที่สถานการณ์ดำเนินต่อไประยะหนึ่ง ราคาจะปรับตัวลงมาสู่ระดับปกติ ทั้งนี้ เวลาที่ใช้ในการปรับตัว จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของความขัดแย้งและความเป็นไปได้ของการเจรจาเพื่อสันติภาพ

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ