สำนักงบประมาณของสหรัฐฯ ได้คาดการณ์ภาวะงบประมาณของสหรัฐฯ ในปีงบประมาณ 2552 ว่า สหรัฐฯ อาจขาดดุลงบประมาณสูงถึง 1.86 ล้านล้านเหรียญ สรอ. โดยมีสาเหตุหลักมาจากการจัดเก็บรายได้ที่น้อยลงอันเป็นผลจากเศรษฐกิจที่เข้าสู่ภาวะถดถอยตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2550 และการใช้มาตรการลดภาษีที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการใช้มาตรการฟื้นฟูระบบสถาบันการเงิน (Bailout Plan) และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ ที่รัฐบาลกำลังพิจารณาดำเนินการ ดังนั้น ในปี 2552 เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจหดตัวลงร้อยละ 2.2 ซึ่งเป็นการขยายตัวต่ำสุดนับแต่ปี 2489
นายบารัก โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ย้ำถึงความสำคัญของการปฏิรูประบบงบประมาณ (Budget Reform) ว่าจะต้องเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วนและจริงจัง แม้ว่าจะมีผลให้สหรัฐฯ ต้องประสบกับภาวะขาดดุลงบประมาณไปอีกในหลายปีข้างหน้า แต่ก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาได้ย้ำว่า การสร้างระบบติดตามตรวจสอบจากทั้งภาครัฐและจากประชาชนผู้เสียภาษีให้มีการใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งนี้ สำนักงบประมาณของสหรัฐฯ ได้คาดการณ์ว่าภาวะการขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ จะอยู่ในระดับสูงไปจนถึงปี 2562 แม้ว่าจะผ่อนคลายลงบ้างนับแต่ต้นปีงบประมาณ 2553 (เริ่ม 1 ตุลาคม 2552) มาอยู่ในระดับ 703 พันล้านเหรียญ สรอ. ตามภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ดี หากรัฐบาลใหม่มีการประกาศใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีก 775 พันล้านเหรียญ สรอ. ตามที่ได้เกริ่นไว้ การขาดดุลงบประมาณก็จะสูงกว่าที่คาดการณ์ข้างต้น
อนึ่ง ว่าที่รัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ ยังไม่ได้เปิดเผยนโยบายเศรษฐกิจในภาพรวมที่ชัดเจน โดยอยู่ระหว่างการประเมินภาพเศรษฐกิจและวางแผนกำหนดนโยบายในระหว่างผู้เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ดี จากทิศทางที่เปิดเผยมาบ้างในระยะหลังนี้ จะเห็นว่ารัฐบาลจะให้น้ำหนักกับการใช้นโยบายการคลังเพื่อดึงเศรษฐกิจออกมาจากภาวะถดถอยให้ได้โดยเร็วที่สุด
ที่มา : Macroeconomic Analysis Group : Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th