นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แถลงว่า วันนี้ (วันที่ 28 มกราคม 2552) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ มาตรการเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมัน เพื่อส่งเสริมการประหยัดพลังงานและการใช้พลังงานทางเลือกจากพืชการเกษตรในประเทศ ลดการพึ่งพา การนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศ และ รักษาเสถียรภาพในภาคการคลังและระบบเศรษฐกิจ โดยเสนอให้ปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ดังนี้
1. ปรับอัตราภาษีสรรพสามิตเข้าโครงสร้างเดิมก่อน 6 มาตรการ 6 เดือน และปรับลดตำแหน่งทศนิยมของอัตราภาษีสรรพสามิต น้ำมันดังกล่าวให้เป็นทศนิยม 3 ตำแหน่ง เพื่อให้สอดคล้องกับระบบ e-paperless ของกรมศุลกากร
2. ปรับเพิ่มอัตราภาษีน้ำมันเบนซินและดีเซล ดังนี้
ประเภท 6 มาตรการ 6 เดือน (สิ้นสุด 31 ม.ค. 52) อัตราปกติ อัตราที่เสนอ
(ก่อน 6 มาตรการ 6 เดือน) (บาทต่อลิตร)
เบนซินทุกประเภท 3.685/4.685 3.685/4.685 5 แก๊สโซฮอล์ E 10 0.0165 3.3165 3.317* แก๊สโซฮอล์ E 20 3.3165 3.317* แก๊สโซฮอล์ E 85 2.5795 0.75 ดีเซล - กำมะถัน < 0.035 0.005 2.305 3.305 - กำมะถัน > 0.035 2.405 2.405 4.000 ไบโอดีเซล(B5) 0.0898 2.1898 2.190*
หมายเหตุ: * อัตราที่ปรับให้สอดคล้องกับระบบ e paperless ของกรมศุลกากร
ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 เป็นต้นไป
3. คาดว่ารัฐบาลจะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณเดือนละ 1,572 ล้านบาท
4. มอบหมายให้กระทรวงพลังงานใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ รักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกให้มีผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด และให้กระทรวงพาณิชย์ดูแลป้องกันไม่ให้เกิดการกักตุนน้ำมันเพื่อ จำหน่ายในราคาที่สูงขึ้น
สำนักนโยบายภาษี
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร 0-2273-9020 ต่อ 3513 โทรสาร 0-2273-9088
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 10/2552 28 มกราคม 52--