นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ ว่าที่รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการควบคุมค่าเงินหยวนของประเทศจีนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ว่าประเทศจีนผูกค่าเงินหยวนกับเงินเหรียญสรอ. ในอัตราที่ต่ำมาก ซึ่งการที่ค่าเงินหยวนอ่อนตัวกว่าอัตราที่แท้จริงนั้น ส่งผลให้ราคาสินค้าจากประเทศจีนถูกกว่าสินค้าจากประเทศอื่น ช่วยให้ภาวะดุลการค้าระหว่างประเทศของประเทศจีนเกินดุล และส่งผลให้มีสภาพคล่องส่วนเกินในตลาดโลกมากเกินไป ทั้งนี้ นายไกธ์เนอร์ ได้เขียนข้อคิดเห็นอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรเสนอต่อคณะกรรมาธิการการเงินแห่งวุฒิสภาสหรัฐฯ (The Senate Finance Committee) สนับสนุนให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กดดันรัฐบาลจีนในเรื่องดังกล่าวอย่างชัดเจนขึ้น ซึ่งข้อเสนอของ นายไกธ์เนอร์ นั้น เป็นไปในแนวทางเดียวกับทางนโยบายระหว่างการหาเสียงของนายโอบามาที่จะมุ่งเน้นมาตรการด้านนโยบายการค้างระหว่างประเทศจีนมากขึ้น นอกจากนี้ นายไกธ์เนอร์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาวะเศรษฐกิจของประเทศจีนที่ชะลอตัวลงอย่างมากในปี 2551 และแนวโน้มการชะลอตัวต่อเนื่องในปี 2552 จะส่งผลในเชิงลบให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นไปได้ช้าลง จึงมีความจำเป็นที่สหรัฐฯ จะต้องโน้มน้าวให้รัฐบาลจีนดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
สำนักงานที่ปรึกษาฯ มีความเห็นว่า ข้อคิดเห็นที่ค่อนข้างรุนแรงของนายไกธ์เนอร์ครั้งนี้ อาจสร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลจีน ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันในประเด็นปัญหาระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังจากที่รัฐบาลจีนเคยตอบโต้คำกล่าวของนายเฮนรี พอลสัน อดีตรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ในสมัยรัฐบาลของนายจอร์จ ดับเบิลยู บุช เกี่ยวกับผลกระทบของการควบคุมค่าเงินของประเทศจีนต่อวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นมาแล้ว นอกจากนี้ ในด้านการค้า คาดว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะเพิ่มความเข้มงวดกับจีนมากขึ้น และอาจตอบโต้ด้วยการใช้มาตรการเยียวยาทางการค้า (Trade Remedies) ในสินค้าประเภทลิขสิทธิ์และสิ่งทอ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ การดำเนินการดังกล่าวอาจเพิ่มแรงกดดันต่อการเจรจาสานต่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจในระดับทวิภาคีระหว่างสหรัฐฯ และจีนในระยะต่อไป
อนึ่ง คณะกรรมาธิการการเงินแห่งวุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติเสนอชื่อนายทิโมธี ไกธ์เนอร์เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ต่อวุฒิสภา ด้วยเสียงสนับสนุน 18 ต่อ 5 เสียง โดยวุฒิสภาสหรัฐฯ มีกำหนดการลงมติแต่งตั้งนานไกธ์เนอร์ในตอนเย็นของวันจันทร์ที่ 26 มกราคม 2552 ต่อไป
ที่มา : Macroeconomic Analysis Group : Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th