รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2552

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 4 ก.พ. 2552

1. รัฐบาลดึงภาคเอกชนเข้าร่วมโครงการฝึกอบรมผู้ว่างงาน

2. ไอเอ็มเอฟทำนายเศรษฐกิจเอเชียจะเริ่มฟื้นปีหน้า

3. ธนาคารกลางอินเดียคาดไตรมาส 4 ปี 51 เศรษฐกิจอินเดียขยายตัวร้อยละ 6.8 ต่อ

• รองนายกแถลงหลังประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการเพิ่มศักยภาพผู้ว่างงานเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมในชุมชนว่า เตรียมจัดอบรมผู้ว่างงานในระยะแรกเป็นกรณีเร่งด่วนโดยใช้งบฉุกเฉิน 120ล้านบาท กำหนดกลุ่มเป้าหมายออกเป็น 4 กลุ่มย่อยโดยเน้นผู้ที่จะกลับภูมิลำเนาก่อนประมาณ 5แสนคน แบ่งเป็นกลุ่มที่ 1) ผู้ว่างงานเข้ารับการอบรมปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 2) ผู้ที่กำลังจะถูกเลิกจ้างและภาคธุรกิจต้องการให้เพิ่มทักษะ โดยภาครัฐกับเอกชนจะทำข้อตกลงร่วมกันว่าภาครัฐจะจ่ายเงินช่วยเหลือแรงงานจำนวน 5000บาท/เดือน ในช่วงประมาณ3-4เดือน และภาคเอกชนตกลงจะให้แรงงานทำงานต่อไปหลังได้รับการฝึกอบรม 3)ผู้ถูกเลิกจ้างภาคอุตสาหกรรม 4)ผู้สำเร็จการศึกษาเพื่อเตรียมเข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างมีคุณภาพ
• สศค. วิเคราะห์ว่า จากปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกทำให้ภาคธุรกิจของไทยจำเป็นต้องปรับตัวซึ่งบางแห่งอาจมีการปรับลดพนักงานลง ทำให้ทาง สศค.คาดว่าในปี 52 จะมีผู้ว่างงานประมาณ 1-1.2 ล้านคน คิดเป็นอัตราว่างงานร้อยละ 3.8-4 แต่ยังเป็นอัตราที่ต่ำกว่าช่วงวิกฤติปี 41 ที่มีผู้ว่างงานถึง 1.4 ล้านคน หรือคิดเป็นอัตราว่างงานร้อยละ 4.4 ดังนั้น มาตรการภาครัฐที่ร่วมมือกับภาคเอกชนจะช่วยบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นโดยจัดการอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพแก่ผู้ว่างงานพร้อมทั้งจ่ายเงินเลี้ยงชีพให้ ซึ่งจะทำให้ผู้ว่างงานมีโอกาสหางานในตำแหน่งใหม่ได้ง่ายขึ้นในอนาคต และมาตรการนี้จะช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศอีกด้วย

• กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่า เขตเศรษฐกิจในเอเชียที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตการเงินจะเริ่มฟื้นตัวในปีหน้า โดยผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟระบุว่า เอเชียจำเป็นต้องกระตุ้นความต้องการบริโภคในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐและยุโรป ทั้งนี้ เขตเศรษฐกิจส่วนใหญ่ในเอเชียพึ่งพาความต้องการบริโภคจากตลาดสหรัฐและยุโรป ซึ่งกำลังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยรายงานของไอเอ็มเอฟล่าสุดประเมินว่าเอเชียจะเติบโตเพียงร้อยละ 2.7 ในปีนี้ ลดลงจากการคาดการณ์ครั้งก่อนในเดือนพฤศจิกายนที่ร้อยละ 4.9 ทั้งนี้ เขตเศรษฐกิจในเอเชียน่าจะขยายตัวในอัตราเฉลี่ยกว่าร้อยละ 5 ในปีหน้า
• สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจของ 14 ประเทศคู่ค้าหลักของไทยในปี 2552 จะหดตัวร้อยละ -1.7 (ช่วง -2.7 ถึง -0.7) ทั้งนี้ ประเทศคู่ค้าหลักที่สำคัญของไทย ได้แก่ สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ซึ่งในปี 2551 มีสัดส่วนต่อการส่งออกทั้งหมดร้อยละ 12.0 ร้อยละ 11.4 และร้อยละ 11.3 ตามลำดับ มีสัญญาณถดถอยอย่างชัดเจน ส่งผลให้ประเทศในเอเชียโดยเฉพาะสิงคโปร์ ฮ่องกง และไต้หวัน เศรษฐกิจถดถอยตามเนื่องจากเป็นประเทศที่เพิ่งพาการส่งออกไป 3 ประเทศใหญ่ดังกล่าวเป็นหลัก อย่างไรก็ดี มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่หลายประเทศออกมาอย่างต่อเนื่องน่าจะส่งผลดีให้กับประเทศในเอเชียบ้าง

• ธนาคารกลางอินเดีย (BRI) คาดว่าเศรษฐกิจอินเดียในไตรมาสที่ 4 ปี 51 จะขยายตัวที่ร้อยละ 6.8 ต่อปี ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้เดิมที่ร้อยละ 7.7 ต่อปี ตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอย นอกจากนี้ ยังประกาศว่าพร้อมจะกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการเงินผ่อนคลายเนื่องจากแรกดดันเงินเฟ้อเริ่มลดลง ทั้งนี้ ในเดือนต.ค.51 ที่ผ่านมารัฐบาลอินเดียมีโครงการใช้งบประมาณ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการบริโภคของประชาชน
• สศค. วิเคราะห์ว่า หากเศรษฐกิจอินเดียในไตรมาสที่ 4 ปี 51สามารถเติบโตได้ร้อยละ 6.8 ต่อปี ตามที่ BRI คาดนั้นจะส่งผลให้เศรษฐกิจอินเดียปี 51 ขยายตัวที่ร้อยละ 7.8 ต่อปี ชะลอลงจากปีก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 9.2 ต่อปี ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และอุปสงค์ภายในประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นในปี 51 ทั้งนี้ สศค.คาดว่า เศรษฐกิจอินเดียในปี 52 จะขยายตัวที่ร้อยละ 5.0 ต่อปี

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th