ยอดรายได้ การใช้จ่าย และการออมส่วนบุคคลของสหรัฐฯ ในเดือนธันวาคม 2551

ข่าวเศรษฐกิจ Friday February 6, 2009 08:59 —กระทรวงการคลัง

1. รายได้ส่วนบุคคล (Personal Income) ของสหรัฐฯ ในเดือนธันวาคม 2551 ปรับตัวลดลง 25,300 ล้านเหรียญสรอ. หรือร้อยละ 0.2 คิดเป็นอัตราเดียวกันกับเดือนก่อนหน้าโดยตัวเลขรายได้ส่วนบุคคลที่ลดลงในเดือนธันวาคมนั้น เป็นผลจากรายได้และเงินเดือนในภาคเอกชนที่ลดลงร้อยละ 0.3 เป็นองค์ประกอบหลัก

2. รายได้ส่วนบุคคลสุทธิ (Disposable Personal Income - DPI) หรือรายได้ที่ครัวเรือนได้รับหลังหักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่สามารถนำไปใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคหรือการออมนั้น ปรับตัวลดลง 25,100 ล้านเหรียญสรอ. หรือร้อยละ 0.2 ในเดือนธันวาคม เปรียบเทียบการหดตัวที่ร้อยละ 0.3 ในเดือนพฤศจิกายน 2551

3. รายได้ส่วนบุคคลที่สามารถนำไปใช้จ่ายได้จริง (Real Disposable Personal Income - Real DPI) หรือรายได้สุทธิหลังหักภาษีและเงินเฟ้อ ที่สามารถนำไปใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคหรือการออมได้จริงนั้น ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ในเดือนธันวาคม หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 0.8 ในเดือนก่อนหน้า

4. ยอดการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคอุปโภคส่วนบุคคล (Real Personal Consumption Expenditures - PCE) ประชากรสหรัฐฯ ใช้จ่ายลดลงร้อยละ 0.5 ในเดือนธันวาคม 2551 หลังจากที่ยอดการใช้จ่ายกระเตื้องขึ้นที่ร้อยละ 0.3 ในเดือนพฤศจิกายน โดยตัวเลขการใช้จ่ายที่ปรับลดลงในเดือนธันวาคมนั้น เป็นผลจากการใช้จ่ายด้านพลังงานที่ลดลงเป็นองค์ประกอบหลัก มูลค่าการใช้จ่ายในการซื้อสินค้าคงทน (Durable Goods) และสินค้าไม่คงทน (Non-Durable Goods) ในเดือนธันวาคมปรับลงลดร้อยละ 0.8 และร้อยละ 1.8 ตามลำดับ หลังจากที่มูลค่าการใช้จ่ายในการซื้อสินค้าทั้งสองประเภทเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 1.0 และร้อยละ 0.9 ตามลำดับ ในเดือนก่อหน้า ส่วนการใช้จ่ายด้านบริการในเดือนธันวาคมปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย

5. ระดับราคา (PCE Price Index) ซึ่งวัดโดยดัชนีราคาของการใช้จ่ายในการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล ปรับตัวลดลงร้อยละ 0.5 ในเดือนธันวาคม หลังจากลดลงร้อยละ 1.1 ในเดือนพฤศจิกายน โดยดัชนีราคาของการใช้จ่ายในการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลที่ไม่รวมสินค้าอาหารและน้ำมัน อยู่ที่ระดับที่จากเดือนก่อนหน้า

6. การออมส่วนบุคคล (Personal Saving) ที่คิดเป็นสัดส่วนจากรายได้ส่วนบุคคลที่สามารถนำไปใช้จ่ายได้จริง ประชากรมีระดับการออมที่ร้อยละ 3.6 ในเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนซึ่งมีระดับการออมที่ร้อยละ 2.8

กล่าวโดยสรุปแล้ว ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยรวมยังคงชะลอตัว เห็นได้จากยอดการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคอุปโภคส่วนบุคคลที่แท้จริงที่คิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 70 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้น มีแนวโน้มลดลงตลอดช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ถึงแม้จะกระเตื้องขึ้นเล็กน้อยในเดือนพฤศจิกายนก็ตาม

อนึ่ง การเลิกจ้างงานที่เพิ่มขึ้นในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา ส่งผลกระทบให้รายได้ประชากรลดลงเพียงร้อยละ 0.3 ในเดือนธันวาคม 2551 ซึ่งต่ากว่าการคาดการณ์เบื้องต้นอย่างไรก็ตาม ส่านักงานที่ปรึกษาฯ มีความเห็นว่า ตัวเลขการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคอุปโภคส่วนบุคคลในสหรัฐฯ จะยังคงชะลอตัวต่อเนื่องในช่วงต้นปี 2552 จากผลกระทบที่ชัดเจนขึ้นของอัตราการเลิกจ้างงานซึ่งสูงขึ้นมากในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ความวิตกกังวลของผู้บริโภคเกี่ยวกับโอกาสการถูกเลิกจ้างงานที่สูงขึ้นนั้น ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคให้หันมาเก็บออมมากขึ้น เห็นได้จากตัวเลขอัตราการออมส่วนบุคคลซึ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 4.8 จากผลของการจ่ายเงินชดเชยภาษีในช่วงเวลาดังกล่าว นอกจากนี้ระดับราคาที่ลดลงอย่างต่อเนื่องนั้น ยังสะท้อนถึงแรงกดดันจากภาวะเงินฝืดที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

ที่มา : Macroeconomic Analysis Group : Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


แท็ก สหรัฐ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ