นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ได้เปิดเผยถึงผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลประจำเดือนมกราคม 2552 รัฐบาลจัดเก็บรายได้ 88,583 ล้านบาท ต่ำกว่า เป้าหมายที่ตั้งไว้ 20,449 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้ 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2552 (ตุลาคม 2551 — มกราคม 2552) จัดเก็บได้ 363,729 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 70,472 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
1. เดือนมกราคม 2552 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 88,583 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตาม เอกสารงบประมาณเป็นจำนวน 20,449 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.8 (ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 8.6)
ภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีน้ำมัน และอากรขาเข้าโดยภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 11,546 ล้านบาท เป็นผลจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากทั้งการบริโภคในประเทศและการนำเข้าสินค้าต่ำกว่าประมาณการ สอดคล้องกับผลการจัดเก็บอากรขาเข้า ซึ่งต่ำกว่า ประมาณการ 2,087 ล้านบาท สำหรับภาษีน้ำมันจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 5,862 ล้านบาท เพราะได้รับผลกระทบจากการลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซลและแก๊สโซฮอล์จาก 6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤติเพื่อคนไทยทุกคน ซึ่งได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมาแล้ว
2. ในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2552 (ตุลาคม 2551 — มกราคม 2552) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 363,729 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 70,472 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.2 (ต่ำ กว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 13.9) โดยมีสาเหตุหลักมาจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีน้ำมัน และการนำส่ง รายได้ของรัฐวิสาหกิจที่ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ การคืนภาษีของกรมสรรพากรที่สูงกว่าประมาณการ17,214 ล้านบาท หรือร้อยละ 26.9 ได้ส่งผลให้รายได้สุทธิของรัฐบาลต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้อีกด้วย
ผลการจัดเก็บรายได้ตามหน่วยงานจัดเก็บสรุปได้ ดังนี้
2.1 กรมสรรพากร จัดเก็บได้รวม 302,251 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสาร งบประมาณ 17,813 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5.6 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 3.7) ภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่า ประมาณการที่สำคัญได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 20,048 และ 3,246 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.7 และ 4.8 ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ภาษีเงินได้ปิโตรเลียมและภาษีเงินได้นิติบุคคลยังเก็บได้สูงกว่าประมาณการ
2.2 กรมสรรพสามิต จัดเก็บได้รวม 72,372 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสาร งบประมาณ 27,007 ล้านบาท หรือร้อยละ 27.2 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 24.3) โดยสาเหตุสำคัญมาจากการจัดเก็บภาษีน้ำมันที่ต่ำกว่าประมาณการถึง 19,722 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซลและแก๊สโซฮอล์ และภาษีสรรพสามิตรถยนต์ที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 4,568 ล้านบาท ตาม การชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ
2.3 กรมศุลกากร จัดเก็บได้รวม 30,312 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 3,838 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11.2 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 9.0) เนื่องจากอากรขาเข้าจัดเก็บได้ต่ำกว่า ประมาณการ 3,804 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.4 เป็นผลจากการชะลอตัวของมูลค่าการนำเข้าสินค้าเป็นสำคัญ
2.4 รัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้ 16,962 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 9,219 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 35.2 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 50.5) โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากการที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ขอเลื่อนการนำส่งรายได้ออกไป รวมทั้ง บมจ. ทีโอที ยังไม่สามารถนำส่งรายได้ค่าธรรมเนียมการให้บริการการสื่อสารตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
2.4 หน่วยงานอื่น นำส่งรายได้รวม 29,319 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 3,843 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.1 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 39.2)
2.5 การคืนภาษีของกรมสรรพากร 81,251 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 17,214 ล้านบาท หรือร้อยละ 26.9 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 37.8) ประกอบด้วยการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มที่สูงกว่าประมาณการ 11,614 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.0 และการคืนภาษีอื่น ๆ สูงกว่าประมาณการ 5,600 ล้านบาท หรือร้อยละ 95.4
3. สรุป
จากผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2552 ที่ต่ำกว่าประมาณ การ 70,472 ล้านบาทนั้น ถ้าหักผลกระทบจากการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันตาม 6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤติเพื่อคนไทยทุกคน (ซึ่งได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อสิ้นเดือนมกราคม 2552) ประมาณ 17,000 ล้านบาทแล้ว รายได้สุทธิของรัฐบาลในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณจะต่ำกว่าประมาณการฯ ประมาณ 53,472 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 12.3
ในปีงบประมาณ 2552 แนวโน้มการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล (รวมรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี จำนวน 19,139.48 ล้านบาท) กระทรวงการคลังคาดว่ารัฐบาลจะจัดเก็บรายได้สุทธิจำนวน 1,472,590 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ (1,585,500 ล้านบาท) จำนวน112,910 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.1
สำนักนโยบายการคลัง
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร 02 273 9020 ต่อ 3500 และ 3545
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 16/2552 6 กุมภาพันธ์ 52--