รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 10, 2009 11:34 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 10 ก.พ. 2552

SUMMARY:
  • ราคาสินค้าเตรียมปรับขึ้นตามราคาน้ำมัน
  • บีโอไอเชื่อนักลงทุนญี่ปุ่นย้ายฐานการลงทุนจากจีนมาประเทศไทย
  • ทางการคาดเศรษฐกิจอินเดียจะโตร้อยละ 7.1 ในปีงบประมาณ 51/52 นี้
HIGHLIGHT:
1. ราคาสินค้าเตรียมปรับขึ้นตามราคาน้ำมัน
  • กรมการค้าภายใน ได้ศึกษาผลของการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมัน หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติกลับไปจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงตามเดิมตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งการปรับขึ้นดีเซลทุกๆ 1.55 บาท/ลิตร จะส่งผลให้สินค้า 73 รายการมีต้นทุนการผลิตสูงขึ้นร้อยละ 0.0061-0.4447 โดยหมวดอาหารกระทบมากสุดคือน้ำดื่มบริสุทธิ์ร้อยละ 0.1693 หมวดขนส่งคือ ปูนซิเมนต์ร้อยละ 0.4447 หมวดเกษตรคือ ปุ๋ยเคมีร้อยละ 0.0540
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ผลจากการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล แล้วส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าโดยรวมนั้น คาดว่าจะไม่กระทบต่อการบริโภคของประชาชนมากนัก เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำมาก โดยล่าสุดในเดือน ม.ค. 52 หดตัวที่ร้อยละ -0.4 ต่อปี ถือเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบหลายปี ทั้งนี้ หากราคาน้ำมันขายปลีกเพิ่มขึ้น 0.20 บาทต่อลิตร อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.03 จากกรณีฐาน
2. บีโอไอเชื่อนักลงทุนญี่ปุ่นย้ายฐานการลงทุนจากจีนมาประเทศไทย
  • บีโอไอเชื่อหลังโรดโชว์ญี่ปุ่น นักธุรกิจทยอยลงทุนในประเทศไทยต่อเนื่อง ด้านปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวว่า เอสเอมอีญี่ปุ่นที่จะเข้ามาลงทุนในไทยจะเป็นการต่อยอดจากฐานการผลิตเดิมในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคาดว่าภายใน 3 เดือนจะเริ่มเห็นเอสเอ็มอีญี่ปุ่นมาลงทุนในไทยมากขึ้น อีกทั้ง 6 เทรดดิ้งเฟิร์มรายใหญ่ของญี่ปุ่นในอุตสาหกรรมผลิตอาหาร คาดว่าจะย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังไทยจำนวนไม่น้อยกว่า 50 โครงการ
  • สศค. วิเคราะห์ว่าการที่ภาคเอกชนญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ สะท้อนให้เห็นว่าเอกชนญี่ปุ่นมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทั่วโลกจะทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศญี่ปุ่นและเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวภายในปีนี้ ทั้งนี้ หากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวภายในปีนี้ จะส่งผลให้ปริมาณการส่งออกสินค้าของไทยในปี 2552 ดีกว่าที่ สศค. คาดการณ์ไว้เดิมที่ร้อยละ 0.6 -1.6 ต่อปี
3. ทางการคาดเศรษฐกิจอินเดียจะโตร้อยละ 7.1 ในปีงบประมาณ 51/52 นี้
  • ทางการอินเดียคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจอินเดียในปีงบประมาณ 51/52 ที่จะจบลงปลายเดือนมี.ค.52 นี้ จะโตที่ร้อยละ 7.1 ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่น้อยที่สุดในรอบ 6 ปี ผลจากการส่งออกที่ถดถอยและอุปสงค์ภายในประเทศที่ตกต่ำ ทั้งนี้ เศรษฐกิจอินเดียเติบโตถึงร้อยละ 9.0 ต่อปี ในปีงบประมาณ50/51 และ ร้อยละ 9.7 ต่อปี ในปีงบประมาณ50/51 อย่างไรก็ดี ทางการอินเดียเตรียมประกาศงบประมาณฉุกเฉินมูลค่า 2 แสนล้านรูปี (4.11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้รับผลจากวิกฤตการเงินโลกน้อยที่สุด
  • สศค.วิเคราะห์ว่า โครงสร้างเศรษฐกิจอินเดีย ที่เป็นคู่ค้าอันดับ 13 ของไทย มีสัดส่วนการส่งออกร้อยละ 1.9 ของการส่งออกรวม นั้น เป็นเศรษฐกิจที่พึ่งพาการบริโภคภาคเอกชนเป็นหลัก ในขณะที่การค้าระหว่างประเทศมีสัดส่วนน้อย โดยสัดส่วนของการค้าระหว่างประเทศรวมต่อ GDP อยู่ที่ประมาณร้อยละ 45 [ในขณะที่ประเทศไทยอยู่ที่ประมาณร้อยละ 124] อีกทั้งภาคการเงินยังไม่มีส่วนเกี่ยวพันกับตราสารอนุพันธ์ที่มีความเสี่ยงสูงดังเช่นประเทศโลกที่หนึ่งมากนัก ผลจากวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ จึงกระทบเศรษฐกิจอินเดียน้อยกว่าประเทศคู่ค้าอื่นๆ ประเทศไทยจึงควรเร่งการสนับสนุนการส่งออกไปยังอินเดีย โดยเฉพาะการส่งออกเครื่องยนต์ เคมีภัณฑ์ และเครื่องหอมต่างๆ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักไปยังอินเดีย

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ