Macro Morning Focus ประจำวันที่ 20 ก.พ. 2552
SUMMARY:
1. ส่งออก-นำเข้าเดือนม.ค.52 หดตัวเป็นประวัติการณ์
2. คาดส่งออกข้าวไทยในเดือนก.พ.52 น้อยกว่า 6 แสนตัน
3. ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.52 ปรับตัวดีขึ้นที่ร้อยละ 64.1
HIGHLIGHT:
1. ส่งออก-นำเข้าเดือนม.ค.52 หดตัวเป็นประวัติการณ์
- กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขมูลค่าการส่งออกและนำเข้าสินค้า เดือนม.ค.52 โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าหดตัวเป็นประวัติการณ์ที่ร้อยละ -26.5 ต่อปี ซึ่งเป็นการหดตัวที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ในขณะที่มูลค่าการนำเข้าสินค้าหดตัวที่ร้อยละ -37.6 ต่อปี โดยที่มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรหดตัวถึงร้อยละ -25.6 ต่อปี ในขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรร หดตัวถึงร้อยละ -24.5 ต่อปี และการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบ สินค้าทุน และสินค้าอุปโภคบริโภค หดตัวถึงร้อยละ -41.9 -29.5 และร้อยละ -17.9 ต่อปี ตามลำดับ
- สศค. วิเคราะห์ว่า การส่งออกสินค้าของไทย ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ด้วยสัดส่วนที่สูงถึงร้อยละ 56 ของ GDP ได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาวะเศรษฐกิจโลก สอดคล้องกับ MPI ที่คาดว่าจะหดตัวตลอดครึ่งปีแรก ในขณะที่การนำเข้า โดยเฉพาะการนำเข้าสินค้าทุนและสินค้าวัตถุดิบ บ่งชี้ว่าการลงทุนและการผลิตของไทยกำลังหดตัวลง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการส่งออกในอนาคตที่จะหดตัวลงมากขึ้น ทั้งนี้ สศค.คาดการณ์ว่า มูลค่าการส่งออกและนำเข้าสินค้าในปี 52 จะหดตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม และมีความเป็นไปได้สูงขึ้นที่ GDP ปี 52 จะหดตัว
2. คาดส่งออกข้าวไทยในเดือน ก.พ.52 น้อยกว่า 6 แสนตัน
- นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย คาดว่าการส่งออกข้าวในเดือน ก.พ. 52 อาจจะลดลงต่ำกว่า 6 แสนตัน เทียบกับในเดือน ก.พ.51 ที่ส่งออกได้ 1. 04 ล้านตัน นอกจากนี้ ยังคาดว่าการส่งออกข้าวในปี 52 อยู่ที่ 8.5-9. ล้านตัน ลดลงจากปี 51 ที่ส่งออกได้ 10 ล้านตัน
- ในขณะที่รัฐบาลเวียดนาม ประกาศขยายเป้าการส่งออกข้าวจาก 4 ล้านตัน เป็น 4.5 -5.0 ล้านตัน
- สศค. วิเคราะห์ว่า สาเหตุที่ไทยส่งออกข้าวได้ลดลง คือ 1) ความต้องการของตลาดโลกที่ลดลงตามอุปสงค์ในตลาดโลก 2) ข้าวไทยมีราคาสูงในสายตาต่างประเทศเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่างเวียดนามและพม่า ดังนั้น ภาครัฐและภาคเอกชน อาจต้องเร่งร่วมมือกับประเทศผู้ส่งออกข้าวเพื่อมิให้ประเทศใดประเทศหนึ่งสูญเสียประโยชน์มากกว่าที่ควรจะเป็น และควรเร่งหาตลาดใหม่ๆเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ สศค. คาดว่า ปริมาณการส่งออกข้าวไทยในปี 52 จะหดตัวที่ร้อยละ -12.0 ต่อปี (กรณีที่ส่งออกข้าวได้จำนวน 9 ล้านตัน)
3. ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.52 ปรับตัวดีขึ้นที่ร้อยละ 64.1
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.52 ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยที่ระดับร้อยละ 64.1 จากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับร้อยละ 62.9 โดยผู้บริโภคและผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ทำให้ดัชนึความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากความชัดเจนทางการเมืองที่มีการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ประกอบกับการเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในรัฐบาลประเทศต่างๆ รวมทั้งไทยที่ส่งผลให้มียอดคำสั่งซื้อและยอดขายมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น
- สศค. วิเคราะห์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนม.ค.52 ที่ปรับตัวดีขึ้นนั้นเป็นสัญญานที่ดีจากผู้บริโภคและผู้ประกอบการที่มีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นในความพยายามแก้ไขและรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เกิดขึ้นของรัฐบาลประเทศต่างๆ รวมทั้งไทย อย่างไรก็ตามภาคธุรกิจของไทยยังคงมีความเสี่ยงอยู่ต่อไป โดยเฉพาะในสินค้าอุตสาหกรรมที่ผลิตเพื่อส่งออก ซึ่งยอดการส่งออกในเดือนม.ค.52 หดตัวลงถึงร้อยละ -26.5 ต่อปี ในขณะที่มูลค่านำเข้าหดตัวถึงร้อยละ -37.6 ต่อปี
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th