รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2552

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 27 ก.พ. 2552

1. ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.52 หดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ -25.6 ต่อปี

2. เศรษฐกิจยูโรโซนดิ่งลึก หวั่นผลกระทบโดมิโนลามทั้งภาคพื้นยุโรป

3. สิงคโปร์คาด GDP ปี 52 ติดลบร้อยละ -5 ถึง -2 ต่อปี

• สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผยดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.52 หดตัวที่ร้อยละ -25.6 ต่อปี หดตัวต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 4 โดยมีการหดตัวเพิ่มมากขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวที่ร้อยละ -19.7 ต่อปี อุตฯ ที่หดตัวมากเป็นพิเศษได้แก่ อุตฯ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อุตฯ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุตฯยานยนต์ ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือนม.ค.52 อยู่ที่ร้อยละ 51.7 ต่อปี ปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วอยู่ที่ร้อยละ 68.2 ต่อปี เป็นผลจากการหดตัวของการผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกเป็นหลัก ส่งผลให้ภาคการผลิตอุตสาหกรรมปรับลดอัตราการใช้กำลังการผลิตลงตามไปด้วย

• สศค. วิเคราะห์ว่า การหดตัวของดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง อัตราการใช้กำลังการผลิตที่ลดลง ดัชนีการส่งสินค้าที่หดตัว ดัชนีสินค้าคงคลังที่เพิ่มขึ้น และตัวเลขการเลิกจ้างแรงงานภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า ภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลกได้ส่งผลกระทบที่รุนแรงมากขึ้นต่อภาคอุตสาหกรรมที่มีสัดส่วนร้อยละ 40.1 ของ GDP ผลกระทบนี้จะยังทำให้ปริมาณการส่งออกสินค้าหดตัว ท้ายที่สุดการเติบโตทางเศรษฐกิจใน Q1/52 อาจหดตัวมากกว่า Q4/51

• ยูโรโซนกำลังเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี ซึ่งสะท้อนจากตัวเลข GDP ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมาหดตัวลงร้อยละ —1.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า หากคิดเป็นการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนจะคิดเป็นการหดตัวลงร้อยละ -1.2 ต่อปี โดยมีการหดตัวลงของ GDP ประเทศเยอรมนีที่ร้อยละ -2.1 เป็นตัวฉุดเศรษฐกิจที่สำคัญ

• สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยูโรโซนไตรมาส 4 ปี 51 ที่หดตัวลงมากนั้น (เข้าสู่ภาวะ Recession แล้ว) มีสาเหตุหลักมาจากการหดตัวอย่างรุนแรงของการส่งออกและการชะลอตัวลงอย่างมากของการลงทุนภายในประเทศ โดยเฉพาะใน เยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี ทั้งนี้ สศค. คาดว่าการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยูโรโซนปี 52 จะลดลงจากปี 51 ที่ขยายตัวร้อยละ 0.7 ต่อปี มาเป็นหดตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ -3.0 ต่อปี ทั้งนี้ อัตราการว่างงานของยูโรโซนแตะที่ระดับร้อยละ 8.0 แล้วในเดือน ธ.ค.51 ปัจจัยเหล่านี้จะทำให้การส่งออกไปยูโรโซนซึ่งเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งที่มีสัดส่วนการส่งออกของไทยร้อยละ 12 ของมูลค่ารวม หดตัวตามไปด้วย

• สิงคโปร์คาด GDP ปี 52 ตกต่ำรุนแรง ติดลบในช่วงร้อยละ -5 ถึง -2 ต่อปี หลังดัชนีชี้วัดในเกือบทุกภาคเศรษฐกิจล้วนดิ่งเหว อาทิ การว่างงาน 2.6% และอาจพุ่งถึง 4.7% ในปี 52 ส่งออกหมวดอิเล็กทรอนิกส์ ม.ค.51 ลด -38% การค้าส่งภายในประเทศในไตรมาส 4 ปี 51 ลดลง -32.4% ตลอดจนยอดการค้าปลีกในปี 51 ลดลง -1.6% ต่อปี เป็นต้น โดยตัวเลขดัชนีเศรษฐกิจที่ดิ่งลงดังกล่าวมีปัจจัยสำคัญจาก เศรษฐกิจโลกที่หดตัวลงเกินกว่าที่คาดการณ์

• สศค. วิเคราะห์ว่า ใน Q4/51 เศรษฐกิจสิงคโปร์หดตัวร้อยละ -3.7 ต่อปี (เข้าสู่ภาวะ Recession แล้ว) เนื่องจากการส่งออกที่ใหญ่ถึง 1.8 เท่าของ GDP หดตัวสูงมาก และคาดว่าจะยังคงหดตัวต่อเนื่องไปในปี 52 ทำให้คาดว่าทั้งปีน่าจะหดตัวกว่าร้อยละ -4.0 ต่อปี ทั้งนี้ในเดือน ม.ค. 52 การส่งออกสินค้าของสิงคโปร์หดตัวถึงร้อยละ -37.8 ต่อปี (ปัจจุบันสิงคโปร์มีสัดส่วนที่ไทยส่งออกไปร้อยละ 5.7)

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th