1.1 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่น ประกาศว่า ญี่ปุ่นประกาศใช้เงินจำนวน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นเงินทุนฉุกเฉินสำหรับสนับสนุนการค้าระหว่างญี่ปุ่นกับประเทศกำลังพัฒนาในเอเซีย โครงการช่วยเหลือดังกล่าวดำเนินการผ่าน Japan Bank for International Cooperation หรือ JBIC ซึ่งให้เงินกู้กับสถาบันการเงินของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียเพื่อสามารถปล่อยเงินกู้ให้บริษัทการส่งออกหรือนำเข้าต่อได้ โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการปลายเดือนนี้ ภายใต้โครงการดังกล่าว ญี่ปุ่นจะเสนอเงินกู้แก่สถาบันการเงินในประเทศกำลังพัฒนาโดยตรงรวมทั้งค้ำประกัน letters of credit ของสถาบันการเงินดังกล่าว เพื่อช่วยให้สถาบันการเงินมีสภาพคล่องมากขึ้น และส่งเสริมให้การส่งออกดำเนินไปอย่างราบรื่นมากขึ้น
1.2 จัดสรรเงินจำนวน 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งในรูปของการเข้าไปถือหุ้นและให้เงินกู้เพื่อนำไปเพิ่มทุนแก่สถาบันการเงินในประเทศกำลังพัฒนาที่กำลังประสบปัญหาสภาพคล่อง
1.3 รัฐบาลญี่ปุ่นยังจัดสรรเงินทุนอีกจำนวนหนึ่งแก่ JBIC เพื่อช่วยเหลือประเทศแก่บริษัทของญี่ปุ่นหากต้องการเพิ่มสภาพคล่องทั้งผ่านสำนักงานใหญ่ในญี่ปุ่น ให้นำไปปล่อยกู้ต่อแก่บริษัทลูกในต่างประเทศ หรือผ่านสาขาของ JBIC ในต่างประเทศ
ภายหลังนาย Taro Aso ได้ประกาศให้เงินกู้แก่ IMF ในเดือนพฤศจิกายน 2551 ในการประชุม G7 ระหว่างวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลี นาย Shoichi Nakagawa รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่นได้ลงนามในความตกลงกับนาย Dominique Strauss-Kahn, Managing Director เพื่อให้เงินกู้แก่ IMF 100 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเงินกู้จำนวนมากที่สุดในช่วงที่ผ่านมา เพื่อใช้ช่วยเหลือประเทศที่กำลังประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องปัจจุบัน เงินกู้ดังกล่าวมีอายุ 1 ปี แต่สามารถต่ออายุได้ถึง 5 ปี อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แต่ละครั้งร้อยละ 0.65 ต่อปี
IMF กำลังต้องการเพิ่มเงินทุนเพื่อนำไปปล่อยเงินกู้ได้เพิ่มขึ้น เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการที่กำลังเพิ่มขึ้นจากประเทศที่ประสบวิกฤตการเงิน เช่น ปากีสถาน ไอซ์แลนด์ และประเทศในยุโรปตะวันออก จากจำนวนปัจจุบันหรือ ประมาณ 500 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ ก่อนให้เงินกู้เพิ่มของญี่ปุ่น IMF สามารถให้กู้แก่ประเทศสมาชิกได้เพียง 143 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ก่อนให้เงินกู้เพิ่ม ญี่ปุ่นถือหุ้นอยู่ร้อยละ35 ของ IMF quotas
สำนักงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจการคลัง ประจำกรุงโตเกียว
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th