รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 18 มีนาคม 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 18, 2009 11:16 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 18 มี.ค. 2552

SUMMARY:

1. นายกรัฐมนตรีเตรียมแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ มุ่งเน้นโครงการขนาดเล็ก

2. อัตราการว่างงานเดือนม.ค.52 อยู่ที่ร้อยละ 2.4 ของกำลังแรงงาน

3. โตโยต้าเผยยอดจำหน่ายรถยนต์รวมเดือนก.พ.ลดลงร้อยละ 30.7 ต่อปี

HIGHLIGHT:
1. นายกรัฐมนตรีเตรียมแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ มุ่งเน้นโครงการขนาดเล็ก
  • นายกรัฐมนตรีเปิดเผยในการหารือ ครม. เศรษฐกิจถึงเรื่องการจัดทำแผนกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งจะมีพื้นฐานครอบคลุมกรอบเวลา 2-3 ปี (ถึงปีงบประมาณ 2554) โดยมีมูลค่ากว่า 1.4 ล้านล้านบาท โดยมีมูลค่าเฉลี่ยตกประมาณปีละ 5 แสนล้านบาท ซึ่งโดยเบื้องต้นจะเป็นโครงการในส่วนของคมนาคม แหล่งน้ำและโรงเรียนโดยจะมุ่งเน้นเป็นโครงการขนาดเล็กที่มีจำนวนมากและกระจายตามพื้นที่ต่างๆ ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วจะเป็นวงเงินที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่
  • สศค. วิเคราะห์ว่า มาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการใช้จ่ายของภาครัฐดังกล่าวจะมีบทบาทช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวได้ดีขึ้นในช่วงระยะปานกลางได้ โดยเฉพาะการเบิกจ่ายที่จัดทำแบ่งเป็นโครงการย่อยหลายโครงการอาจจะสามารถทำให้การเบิกจ่ายทำได้รวดเร็วกว่าการเบิกจ่ายในรูปแบบของการลงทุนขนาดใหญ่ อีกทั้งจะช่วยเพิ่มการจ้างงานได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ หากภาครัฐสามารถเพิ่มการใช้จ่ายได้มากขึ้นจากกรณีฐาน 25,000 พันล้านจะทำให้เศรษฐกิจไทย(real GDP growth) สามารถขยายตัวเพิ่มขึ้นจากรณีฐานได้ร้อยละ 0.1
2. อัตราการว่างงานเดือนม.ค.52 อยู่ที่ร้อยละ 2.4 ของกำลังแรงงาน
  • เลขาธิการสถิติแห่งชาติ สำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยถึงผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรเดือน ม.ค. 52 พบว่ามีผู้ว่างงาน 8.8 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ 2.4 เมื่อเปรียบกับช่วงกันของปีก่อน มีจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 2.5 แสนคน (จาก 6.3 แสนคน เป็น 8.8 แสนคน) หรือมีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7
  • โดยเป็นการลดลงในสาขาการผลิตสำคัญได้แก่ สาขาก่อสร้าง 5 หมื่นคน การผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ลดลง 1.6 หมื่นคน การผลิตยานยนต์ 1.1 หมื่นคน เป็นต้น
  • สศค. วิเคราะห์ว่า จากตัวเลขการว่างงานที่เพิ่มขึ้นมากจากร้อยละ 1.4 ในเดือนธ.ค.51 เป็นร้อยละ 2.4 ในเดือนม.ค.52 สะท้อนให้เห็นว่าผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกในปี 51 ได้ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจจริงของไทยและส่งผลกระทบต่อการลดการจ้างงานอย่างชัดเจนแล้ว ทั้งนี้ คาดว่าหากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยลดลง จากกรณีฐานร้อยละ 1.0 ต่อปี จะส่งผลให้การจ้างงานลดลง 3.6 แสนคน ซึ่งจำเป็นที่ภาครัฐต้องใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ อาทิ การส่งเสริมการลงทุน และการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ เพื่อทดแทนอุปสงค์จากนอกประเทศ เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจไทยและการจ้างงานหดตัวมากนัก
3. โตโยต้าเผยยอดจำหน่ายรถยนต์รวมเดือนก.พ.ลดลงร้อยละ 30.7 ต่อปี
  • ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บ.โตโยต้า รายงานว่า ยอดขายรถยนต์เดือน ก.พ. 52 มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 34,361 คัน ลดลงร้อยละ 30.7 ต่อปี ซึ่งลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 สาเหตุจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ประกอบกับยอดขายในเดือน ก.พ. 51 สูงมากเนื่องจากมีการตอบรับดีในรถยนต์ E20 ขณะที่ บ. ตรีเพชรอีซูซุเซลล์ จำกัด รายงานยอดจำหน่ายรถยนต์รวมทุกประเภทในเดือน ก.พ. 52 มีจำนวน 34,361 คัน เพิ่มขึ้น ร้อยละ7.09 เมื่อเทียบกับเดือน ม.ค. 52 แต่เมื่อรวม 2 เดือนแรกของปี 52 จะจำหน่ายได้ทั้งสิ้น 66,446 คัน ลดลงถึง ร้อยละ 30.26 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ยอดขายรถยนต์รวมที่ลดลง สะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแอของการบริโภคภาคเอกชน ประชาชนมีการชะลอการซื้อเนื่องจากไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจอันจะกระทบต่อรายได้ในอนาคต อย่างไรก็ดี ยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์ที่เพิ่มจากเดือนก่อนหน้าแสดงให้เห็นว่าการลงทุนของภาคเอกชนเริ่มมีสัญญาณไม่ทรุดตัวลงอีก ทั้งนี้ สศค.คาดว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมยานยนต์จะหดตัวร้อยละ 22.5 ต่อปี ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อแรงงานในสาขานี้ที่มีกว่า 3-3.5 แสนคน จาก 24 โรงงานหลัก

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ