Macro Morning Focus ประจำวันที่ 31 มี.ค. 2552
SUMMARY:
1. ม.หอการค้าเผยเช็คช่วยชาติเงินหมุน 6 หมื่นล้านบาท
2. จี้ส่งออกใช้สิทธิเขตการค้าเสรี (FTA)
3. นายโอบามาจะเข้าร่วมประชุม G-20 เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโลก
HIGHLIGHT:
1. ม.หอการค้าเผยเช็คช่วยชาติเงินหมุน 6 หมื่นล้านบาท
- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย ได้ประเมินสถานการณ์เช็คช่วยชาติจำนวน 2,000 บาท ว่าจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจไทย คาดมีเม็ดเงินสะพัดประมาณ 3 รอบ โดยรอบแรก คือ ภายใน 15 วันจนถึงช่วงสงกรานต์ ประมาณ 15,000 — 17,000 ล้านบาท ส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนของเงินทั้งระบบประมาณ 45,000 — 60,000 ล้านบาท จากการใช้จ่ายเงินเฉลี่ยต่อคนประมาณ 1,546.77 บาท คิดเป็นร้อยละ 75 ของวงเงินที่ได้รับเช็ค 2,000 บาท นอกจากนี้ คาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นจากระดับไม่มีมาตรการเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5-2.0
- สศค. วิเคราะห์ว่า การที่ภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายโดยการมอบเช็ค 2,000 บาทให้กับผู้ที่มีรายได้ที่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือนนั้น จะเป็นปัจจัยที่จะช่วยสนับสนุนให้เกิดการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศได้ในระดับหนึ่งผ่านการอุดหนุนเงินให้แก่ผู้มีรายได้น้อยที่ส่วนใหญ่จะมีความเบี่ยงเบนทางการบริโภคสูง (MPC) และก่อให้เกิดตัวคูณทวีการคลังที่สูง (Fiscal Multiplier) และเป็นการบรรเทาผลกระทบของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจให้แก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อย ทั้งนี้ มาตรการการกระตุ้นของภาครัฐดังกล่าว จะทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) เพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 0.2
2. จี้ส่งออกใช้สิทธิเขตการค้าเสรี (FTA)
- กรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผย ผู้ส่งออกไทยควรหันมาใช้สิทธิประดยชน์ภายใต้ข้อตกลงเขตการค้าเสรี(FTA)ให้มากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจโลกซึ่งประเทศไทยได้จัดทำ FTA กับ 5 กลุ่มประเทศ ได้แก่ อาเซียน-จีน ไทย-อินเดีย ไทย-ญี่ปุ่น ไทย-ออสเตรเลีย ไทย-นิวซีแลนด์และอาฟตา ทั้งนี้ การใช้สิทธิประโยชน์จะช่วยให้ผู้ส่งออกมีข้อได้เปรียบจากการลดภาษี ทำให้สินค้ามีต้นทุนน้อยกว่าประเทศคู่แข่ง และสามารถใช้สิทธินำเข้าวัตถุดิบราคาถูกมาผลิตเป็นสินค้าส่งออก
- สศค. วิเคราะห์ว่า การใช้สิทธิ FTA ของไทยจะเป็นปัจจัยที่สนับสนุนการส่งออกและการลงทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งสินค้าไทยที่ได้รับสิทธิประโยชน์มีหลายรายการทั้งกลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม เช่น ตลาดจีนสินค้าที่มีศักยภาพส่งออกได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์ ผักและผลไม้ ตลาดญี่ปุ่น ได้แก่ เนื้อไก่ เนื้อปลาแช่เย็นแช่แข็ง ผลิตภัณฑ์กุ้ง เป็นต้น ทั้งนี้ สศค. คาดว่า ในปี 2552 มูลค่าส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ จะปรับตัวลดลงมากจากปี 2551 มาหดตัวร้อยละ -20.5 ต่อปี เนื่องจากภาวะการชะลอตัวของประเทศคู่ค้า
3. นายโอบามาจะเข้าร่วมประชุม G-20 เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโลก
- แหล่งข่าวไฟแนนซ์เชี่ยลไทม์รายงานว่า นายโอบามา ประธานธิบดีสหรัฐจะเข้าร่วมประชุม G-20 ในวันที่ 2 เมษายน 2552 ณ กรุงลอนดอน ซึ่งเป็นการหารือระหว่างผู้นำประเทศอุตสาหกรรมหลักและกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลก รวมถึงพิจารณากำหนดกฎเกณฑ์และจัดระบบโครงสร้างสถาบันทางการเงินที่เหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤติการเงินโลกในอนาคต ทั้งนี้ นายโอบามา ต้องการให้รัฐบาลนานาประเทศสนับสนุนการใช้มาตรการทางการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจโลกขยายตัวประมาณร้อยละ 2 และเกิดการจ้างงานทั่วโลกเพิ่มขึ้นอีก 20 ล้านคน นอกจากนี้ นายโอบามา คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะเริ่มฟื้นตัวในปลายปี 2553
- สศค. วิเคราะห์ว่า สศค. วิเคราะห์ว่า การประชุม G-20 ที่จะจัดขึ้นในต้นเดือนเมษายน 2552 จะมีนายกรัฐมนตรีของไทย (นายอภิสิทธิ เวชาชีวะ) เข้าร่วมในฐานะประธานอาเซียน ซึ่งถือเป็น โอกาสสำคัญในการแสดงจุดยืนร่วมของกลุ่มประเทศอาเซียนต่อการแก้ไขปัญหาวิกฤต เศรษฐกิจโลก ดังต่อไปนี้ (1) สนับสนุนให้ประเทศต่างๆเร่งรัดการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้นโยบายการคลังผ่อนคลาย (2) ต่อต้านการใช้มาตรการกีดกันทางการค้า (3) สนับสนุนการปรับโครงสร้างระบบการเงินโลกและการกำกับดูแลสถาบันการเงิน และ (4) สนับสนุนปฏิรูปสถาบันการเงินระหว่างประเทศ ได้แก่ กองทุนการเงินระหว่างประเทศและธนาคารโลก
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th