ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2552 อนุมัติให้กระทรวงการคลังจัดเตรียมวงเงินสำรอง Short term facility จากธนาคารพาณิชย์ที่ประกอบกิจการในประเทศและสถาบันการเงินเฉพาะกิจ วงเงินไม่เกิน 200,000 ล้านบาท เพื่อให้รัฐวิสาหกิจที่มีความต้องการกู้เงินภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะสามารถเบิกจ่ายเพื่อใช้เป็น Bridge financing ได้ และต่อมากระทรวงการคลังได้ดำเนินการจัดให้มีการยื่นข้อเสนอการจัดเตรียมวงเงินสำรองเพื่อให้รัฐวิสาหกิจกู้ (Short term facility) วงเงินไม่เกิน 200,000 ล้านบาท จากธนาคารพาณิชย์ที่ประกอบกิจการในประเทศและสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ซึ่งกระทรวงการคลังได้ดำเนินการพิจารณาคัดเลือกเงื่อนไขและข้อเสนอของสถาบันการเงินดังกล่าวโดยคำนึงถึงสัดส่วนของการค้ำ/ไม่ค้ำประกันโดยกระทรวงการคลังแล้ว ปรากฏว่ามีสถาบันการเงินที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้จัดเตรียมวงเงินสำรองเพื่อให้รัฐวิสาหกิจกู้ Short term facility วงเงินไม่เกิน 200,000 ล้านบาท จำนวน 6 ราย ประกอบด้วย
1. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) วงเงิน 58,500 ล้านบาท
2. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) วงเงิน 50,000 ล้านบาท
3. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) วงเงิน 40,000 ล้านบาท
4. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) วงเงิน 25,000 ล้านบาท
5. ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) วงเงิน 20,000 ล้านบาท
6. ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) วงเงิน 6,500 ล้านบาท
โดยมีอัตราดอกเบี้ยในส่วนของวงเงินรวมที่ได้รับการจัดสรรเท่ากับอัตราต่ำสุดของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือน ประเภทบุคคลธรรมดาของ 4 ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ (FDR) เฉลี่ย (ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย ณ วันที่ 20 เมษายน 2552 เท่ากับร้อยละ 0.7875 ต่อปี) บวก อัตราดอกเบี้ยส่วนต่าง (Spread) ระหว่าง 130-240 bps ทั้งนี้ Spread ดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับระดับความน่าเชื่อถือของรัฐวิสาหกิจ (Credit) และสัดส่วนการค้ำ/ไม่ค้ำประกันโดยกระทรวงการคลัง
ซึ่งจากการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาและเห็นชอบให้กระทรวงการคลังดำเนินการจัดทำข้อตกลงการจัดเตรียมวงเงินสำรองเพื่อให้รัฐวิสาหกิจกู้ (Short term facility) กับสถาบันการเงิน จำนวน 6 แห่ง ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้จัดเตรียมวงเงินสำรองเพื่อให้รัฐวิสาหกิจกู้ (Short term facilitators) วงเงินไม่เกิน 200,000 ล้านบาท และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาจัดสรรวงเงิน Short term facility แก่รัฐวิสาหกิจที่ได้รับการบรรจุไว้ในแผนการบริหารหนี้สาธารณะแล้วได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม
จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
สำนักจัดการหนี้ 2 สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
โทร. (02) 265-8050 ต่อ 5405
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 50/2552 21 เมษายน 52--