ผลการบริหารจัดการหนี้สาธารณะภาครัฐ ประจำเดือนมีนาคม 2552และรายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 27, 2009 11:49 —กระทรวงการคลัง

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ขอสรุปผลการดำเนินการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือนมีนาคม 2552 พร้อมทั้งรายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2552 ดังนี้

ผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ

1. การปรับโครงสร้างหนี้ภาครัฐ

1.1 เดือนมีนาคม 2552

หนี้ในประเทศ

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ โดยทำการ Roll Over หนี้เดิม วงเงินรวม 1,000 ล้านบาท

1.2 ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2552

หนี้ในประเทศ

กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้าง

หนี้ในประเทศ วงเงินรวม 49,999.20 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้เพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินในส่วนของ FIDF1 และรัฐวิสาหกิจได้ ทำการ Roll Over หนี้เดิมรวม 21,387 ล้านบาท

2. การกู้เงินภาครัฐ

เดือนมีนาคม 2552

กระทรวงการคลังได้กู้เงินในประเทศเพื่อชดเชย การขาดดุลงบประมาณ วงเงินรวม 87,000 ล้านบาท

โดยเป็นการออกพันธบัตรรัฐบาล วงเงิน 39,000 ล้านบาท และออกตั๋วเงินคลัง วงเงิน 48,000 ล้านบาท

รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินในประเทศ วงเงินรวม 3,000 ล้านบาท โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้มีการกู้เงินรวม 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการกู้เงินบาทสมทบ 900 ล้านบาท และกู้เพื่อทดแทนเงินกู้ต่างประเทศ 1,100 ล้านบาท และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรกู้เพื่อดำเนินกิจการทั่วไป 1,000 ล้านบาท

อนึ่ง รัฐบาลได้ลงนามในสัญญากู้เงินกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น จำนวน 63,018 ล้านเยน หรือเทียบเท่า 23,134.41 ล้านบาท (คำนวณตามอัตราแลกเปลี่ยนขายถัวเฉลี่ยของเงินบาทกับเงินเยนญี่ปุ่น ณ วัน ลงนามในสัญญา คือ 36.7108 บาทต่อ 100 เยน ) เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2552

ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2552

ภาครัฐได้กู้เงินในประเทศรวม 277,780 ล้านบาท โดยเป็นการกู้เงินของกระทรวงการคลัง 146,000 ล้านบาทและของรัฐวิสาหกิจ 131,780 ล้านบาท

3. การชำระหนี้ภาครัฐ

เดือนมีนาคม 2552

กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้จากงบประมาณรวม 30,650 ล้านบาท โดยเป็นการชำระคืนเงินต้น 13,065 ล้านบาท ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 17,585 ล้านบาท

ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2552

กระทรวงการคลังได้ชำระคืนต้นเงินกู้ ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมจากงบประมาณรวม 82,095 ล้านบาท

รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2552

ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2552 มีจำนวน 3,598,395 ล้านบาท หรือร้อยละ 39.93 ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,286,942 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,014,820 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน 182,430 ล้านบาท หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 110,520 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 3,683 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อน หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น 73,777 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง และหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันเพิ่มขึ้น 78,445 ล้านบาท และ 12,698 ล้านบาท ตามลำดับ สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 14,366 ล้านบาท และ 3,000 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง

การเพิ่มขึ้นสุทธิของหนี้สาธารณะคงค้างเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมานั้น ที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของ หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง และหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงเพิ่มขึ้นสุทธิ 78,445 ล้านบาท รายการที่สำคัญเกิดจากการออกตั๋วเงินคลัง จำนวน 88,000 ล้านบาท โดยเป็นการใช้วงเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณในปีงบประมาณ 2552 จำนวน 39,000 ล้านบาท ประกอบกับรัฐบาลได้ทำการออกพันธบัตรรัฐบาล และออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 17,030 ล้านบาท และ 13,500 ล้านบาท ตามลำดับ นอกจากนี้รัฐบาลได้ดำเนินการออกพันธบัตรรัฐบาล จำนวน 9,999.20 ล้านบาท และนำเงินที่ได้จากการประมูลไปชำระคืนเงินในบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลังที่ใช้เป็น Bridge Financing ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้เพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินในส่วนของ FIDF1 วงเงินรวม 49,999.20 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการกู้เงินระยะสั้นสมทบกับเงินในบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลัง (FIDF1 และ FIDF3) มาทดรองจ่ายไปก่อน จากนั้นจึงดำเนินการทยอยออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ ในช่วงระหว่างเดือนธันวาคม 2551 — เดือนกุมภาพันธ์ 2552 เพื่อทยอยชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นและเงินในบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลังดังกล่าวข้างต้น สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันเพิ่มขึ้นสุทธิ 12,698 ล้านบาท รายการที่สำคัญ เกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรได้เบิกจ่ายเงินกู้ระยะสั้น จำนวน 8,000 ล้านบาท และออกพันธบัตร วงเงิน 5,000 ล้านบาท

สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินลดลง 14,366 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการลดลงของหนี้ที่รัฐบาลค้ำประกันในส่วนของหนี้ต่างประเทศ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสุทธิของหนี้ต่างประเทศในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อแปลงเป็นเงินบาทลดลง 10,522 ล้านบาท

หนี้สาธารณะ 3,598,395 ล้านบาท แยกออกเป็นหนี้ต่างประเทศ 392,699 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.91 และหนี้ในประเทศ 3,205,696 ล้านบาท หรือร้อยละ 89.09 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และเป็นหนี้ระยะยาว 3,315,790 ล้านบาท หรือร้อยละ 92.15 และหนี้ระยะสั้น 282,604 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.85 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง

ส่วนประสานสัมพันธ์นักลงทุน สำนักนโยบายและแผน สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ โทร. 0 2265 8050 ต่อ 5510

--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 53/2552 27 เมษายน 52--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ