Macro Morning Focus ประจำวันที่ 28 เม.ย. 2552
SUMMARY:
1. หนี้สาธารณะก.พ.ขยับสู่ร้อยละ 40.0 ของ GDP
2. ม.หอการค้าหวั่นธุรกิจท่องเที่ยวทรุด-ฉุด GDP
3. GM รีแบรนด์รถหนีล้มละลาย
HIGHLIGHT:
1. หนี้สาธารณะก.พ.ขยับสู่ร้อยละ 40.0 ของ GDP
- ผอ.สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เผยหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนก.พ. 2552 ว่ามีจำนวน 3,598,395 ล้านบาท หรือร้อยละ 39.93 ของ GDP ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นสุทธิของหนี้สาธารณะคงค้างเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับร้อยละ 39.11 ของ GDP ที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงและหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน
- สศค. วิเคราะห์ว่า การเพิ่มขึ้นของหนี้สาธารณะในเดือนก.พ. 52 มาอยู่ที่ระดับร้อยละ 39.93 ของ GDP จากเดือนก่อนหน้าที่ระดับร้อยละ 39.11 ของ GDP นั้น ปัจจัยหลักเป็นการเพิ่มขึ้นของหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงจากการออกตั๋วเงินคลังจำนวน 88,000 ล้านบาท และการใช้วงเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณจำนวน 39,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาสถานะของหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนก.พ. 52 พบว่ายังมีเสถียรภาพที่ดี เนื่องจาก 1) หนี้สาธารณะส่วนใหญ่เป็นหนี้สกุลเงินบาท ซึ่งมีสัดส่วนถึงร้อยละ 89.1 ของหนี้สาธารณะคงค้าง 2) หนี้สาธารณะส่วนใหญ่เป็นหนี้ระยะยาวซึ่งมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 92.1 ของหนี้สาธารณะคงค้าง และ3) สัดส่วนหนี้สาธารณะคงค้างต่อ GDP ในเดือนก.พ.52 ยังคงอยู่ในกรอบความยั่งยืนทางการคลังที่กำหนดสัดส่วนไว้ไม่เกินร้อยละ 50.0 ต่อ GDP
2. ม.หอการค้าหวั่นธุรกิจท่องเที่ยวทรุด-ฉุด GDP
- อธิการบดีฝ่ายวิจัย ม.หอการค้าไทย กล่าวว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในไตรมาส 1 และ 2 ปี 2552 ยังเติบโตติดลบต่อเนื่องจากในไตรมาส 4/2551 ที่ร้อยละ -4.3 ต่อปี และหากการท่องเที่ยวของไทยปีนี้หดตัวลงถึงร้อยละ -30 ต่อปี จะทำให้เศรษฐกิจไทยมีโอกาสติดลบสูงสุดที่ร้อยละ -5.3 ต่อปี ดังนั้น รัฐบาลควรกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กลับคืนมาในปลายปีซึ่งนับเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของไทยอีกครั้งหลังยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
- สศค. วิเคราะห์ว่า จากแบบจำลองภาคการท่องเที่ยวของ สศค. พบว่าภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลก และเหตุการณ์ความไม่สงบในเดือนเม.ย. ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวในปี 52 คาดว่าจะเหลือประมาณ 9.8 ล้านคน จาก 14.6 ล้านคนในปี 51 ซึ่งจะทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวหายไปถึงประมาณ 1.6 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลได้มีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวโดยการเพิ่มเติมงบประมาณกลางปีจำนวน 1,000 ล้านบาทเพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งเริ่มมีการเบิกจ่ายในเดือน มี.ค.และ เม.ย. 52 เป็นจำนวน 84.4 ล้านบาท รวมถึงมีการสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศนั้น น่าจะมีส่วนช่วยพลิกฟื้นการท่องเที่ยวได้บ้าง
3. GM รีแบรนด์รถหนีล้มละลาย
- บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM) เตรียมปรับเปลี่ยนแบรนด์รถยนต์ในค่าย เลิกการผลิตรถยนต์บางแบรนด์ และประกาศแผนปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ในสหรัฐ ซึ่งรวมถึงการลดพนักงานรายชั่วโมงลง 2.1- 4.0 หมื่นคน ลดดีลเลอร์ลง 2,641 ราย และ ปิดโรงงานถึง 13 แห่งในสหรัฐ เพื่อพยุงธุรกิจให้รอดพ้นจากภาวะล้มละลาย นอกจากนี้ GM ยังอาจรีแบรนด์รถยนต์ ฮัมเมอร์ และแซทเทิร์น และแบรนด์อื่นๆ รวมถึงโอเปิลที่จัดจำหน่ายในยุโรป เนื่องจากต้องการมุ่งเน้นที่การผลิตแบรนด์หลัก 4 แบรนด์ คือ เชฟโรเลต คาดิแล็ก จีเอ็มซี และบิวอิค
- สศค. วิเคราะห์ว่า การสร้างแบรนด์หลักและปรับโครงสร้างของบริษัท GM ในครั้งนี้อาจช่วยให้ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวดีขึ้นได้ ซึ่งหากอุตสาหกรรมยานยนต์ของสหรัฐฯ ฟื้นตัว จะช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐฯปรับตัวดีขึ้นได้ ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจสหรัฐได้เริ่มส่งสัญญาณดีขึ้นบ้าง สะท้อนได้จากตัวเลขยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม สัญญาณการฟื้นของเศรษฐกิจสหรัฐดังกล่าวไม่ค่อยชัดเจนมากนัก เนื่องจาก ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐยังปรับตัวลดลงอย่างเนื่อง (โดยเดือน มี.ค. 52 ลดลงถึง 663,000 ตำแหน่ง และลดลงเป็นเดือนที่ 15 ติดต่อกันแล้ว)
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th