รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 29 เมษายน 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 29, 2009 11:39 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 29 เม.ย. 2552

SUMMARY:

1. ครม.อนุมัติ 3 มาตรการช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยวและ SMEs 1.5 หมื่นล้านบาท

2. สสว.ประเมินเอสเอ็มอียังน่าห่วง เตรียมดันแผนส่งเสริมบุกตลาดอาเซียน

3. อุปสงค์จีนหนุนเศรษฐกิจเอเชียพ้นวิกฤติ

HIGHLIGHT:
1. ครม.อนุมัติ 3 มาตรการช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยวและ SMEs 1.5 หมื่นล้านบาท
  • เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2552 คณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและมาตรการช่วยเหลือสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการ SMEs ที่จะต้องจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลเดือนพฤษภาคมนี้รวม 3 มาตรการ คาดว่าจะใช้วงเงินกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ได้แก่ (1) ปรับเกณฑ์ปล่อยกู้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ธพว.) คิดดอกเบี้ยต่ำ MLR -3% วงเงิน 5 พันล้านบาท (2) ทำประกันภัยแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ในเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม 2552 กรณีเกิดเหตุจลาจลจ่ายสูงสุด 3.5 แสนบาท/คน ใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท และ (3) ให้ บสย. ค้ำประกัน SMEs กู้เงินจ่ายภาษีนิติบุคคลเดือนพ.ค.นี้
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ภาพรวมธุรกิจการท่องเที่ยวของไทยมีทิศทางชะลอลงและหดตัวต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 เป็นผลมาจากอัตราการหดตัวของบริการสาขาโรงแรมร้อยละ -8.3 และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาประเทศไทยที่เริ่มหดตัวตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2551 โดยในไตรมาสที่ 1 ปี 2552 มีจำนวนนักท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้น 3.7 ล้านคน หดตัวร้อยละ -14.7 ต่อปี จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ดังนั้น สศค. เห็นว่ามาตรการที่รัฐบาลนำมาใช้จะเป็นกลไกลที่ช่วยเพิ่มสะภาพคล่องให้ธุรกิจการท่องเที่ยว และเสริมสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น
2. สสว.ประเมินเอสเอ็มอียังน่าห่วง เตรียมดันแผนส่งเสริมบุกตลาดอาเซียน
  • รอง ผอ. สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เผยว่า สสว.เตรียมผลักดันโครงการเพื่อขยายโอกาสผู้ประกอบการเข้าสู่ตลาดอาเซียน ซึ่งมีงบประมาณ 280 ล้านบาท โดยมองว่าอาเซียนเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ทั้งด้านความต้องการของผู้บริโภค และความพร้อมของทรัพยากร รวมถึงยังจะได้รับความร่วมมือจากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอนาคตอีกด้วย พร้อมคาดว่าสถานการณ์ในปีนี้ของเอสเอ็มอียังน่าเป็นห่วง โดยตัวเลข GDP ของ SMEs ในปี 52 จะปรับตัวลดลงร้อยละ 2 หรือมีมูลค่าเพียง 3.4 ล้านล้านบาท และมีอัตราถูกเลิกจ้างราว 2-3 แสนราย
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ตลาดอาเซียนเป็นตลาดส่งออกหลักที่สำคัญของไทย เนื่องจากไทยมีสัดส่วนการส่งออกไปยังอาเซียนถึงร้อยละ 19 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด โดยมีมูลค่ารวมกว่า 40,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐในปี 51 การที่ สสว.เลือกตลาดอาเซียนและจีนจึงถือเป็นโอกาสที่จะบรรเทาผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก ประกอบกับตัวเลขการส่งออกในเดือน มี.ค. ที่เริ่มแสดงสัญญาณของการฟื้นตัวในตลาดจีน ได้แก่ การส่งออกสินค้าในหมวดคอมพิวเตอร์และชิ้นส่วนอิเลคทรอนิคส์ และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร ทำให้ สศค.คาดว่าการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวมีโอกาสฟื้นตัวได้ในไตรมาสที่ 2 ของปี
3. อุปสงค์จีนหนุนเศรษฐกิจเอเชียพ้นวิกฤติ
  • สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าผู้ประกอบการธุรกิจการส่งออกในเอเชียอาจรอดพ้นภาวะวิกฤติเศรษฐกิจได้ จากเศรษฐกิจจีนเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากการที่รัฐบาลจีนมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 4 ล้านล้านหยวน (5.85 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ส่งผลให้จีนหันกลับมาซื้อสินค้าจากต่างประเทศในภูมิภาคมากขึ้น โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าจากสิงคโปร์ไปจีนขยายตัวร้อยละ 29.0 ในเดือนมี.ค.52 ในขณะที่การส่งออกของประเทศอื่นๆเช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลจีนประกาศเมื่อปลายปี 51 ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัว สะท้อนจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (NBS PMI) ที่ระดับ 52.4ในเดือนมี.ค. 52 ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก.พ.52 ที่ระดับ 49.0 ซึ่งการที่เศรษฐกิจจีนมีสัญญาณฟื้นตัวดังกล่าว จะส่งผลบวกกับเศรษฐกิจโลก โดยเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียผ่านการส่งออก ทั้งนี้ การส่งออกสินค้าไทยไปจีนในเดือนมี.ค.52 หดตัวในอัตราที่ชะลอลงที่ร้อยละ -14.0 ต่อปี จากเดือนม.ค.และก.พ. 52 ที่หดตัวร้อยละ -40.1 และ -28.9 ต่อปี ตามลำดับ

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ