รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 6 พฤษภาคม 2552

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 6 พ.ค. 2552

1. คาดส่งออก อิเล็กทรอนิคส์ ฟื้นตัวไตรมาส 3

2. บริษัทยาง 3 ชาติออกมาตรการลดผลผลิต 2 แสนตัน

3. ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เปิดเผยเศรษฐกิจสหรัฐมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น

• ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าฯ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประเมินว่าแนวโน้มการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิคส์ในไตรมาส 2 ทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 เนื่องจากในเดือน เม.ย.-พ.ค. มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน แต่คาดว่าช่วงปลายไตรมาสที่ 2 ยอดคำสั่งซื้อจะดีขึ้นในหมวดชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟเนื่องจากเป็นสินค้ากลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจก่อนตั้งแต่ช่วงปลายปี 51 จึงเริ่มฟื้นตัวขึ้นก่อนกลุ่มอื่นๆ ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์ที่มีปัญหาได้ปลดแรงงานออกไป 20,000-30,000 คน เพื่อประคับประคองธุรกิจ เมื่อมีคำสั่งซื้อกลับเข้ามาจึงกลับมารับแรงงานเพิ่มเติม ทำให้หลายแห่งเริ่มประสบปัญหาแรงงานไม่เพียงพอกับความต้องการแล้ว

• สศค. วิเคราะห์ว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกขึ้นบ้างแล้ว เช่น ตลาดหุ้นทั่วโลกทั้งสหรัฐฯ ยุโรป และ เอเชีย ต่างปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกตลาด โดยดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นปิดในระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน หรือปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 30 จากจุดต่ำสุดในเดือน มี.ค. สะท้อนว่าอุปสงค์ในตลาดโลกจะเริ่มกลับมาดีขึ้นในไม่ช้านี้ การฟื้นตัวในภาคส่งออกจึงคาดว่าจะกลับมาดีขึ้นเร็วกว่าปกติ ดังนั้นภาคอุตสาหกรรมจึงจำเป็นต้องเตรียมพร้อมด้านแรงงานเพื่อให้สามารถรองรับกับคำสั่งซื้อที่จะเข้ามาได้ทัน เนื่องจากการฝึกอบรมแรงงานอาจใช้เวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ สำหรับแรงงานภาคอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิคส์

• บริษัท ร่วมทุนยางพาราระหว่างประเทศ จำกัด เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการบริหารบริษัทร่วมทุนยาง 3 ประเทศ (ไทย อินโดเชีย และมาเลเซีย) ได้กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาราคาตกต่ำช่วยเหลือเกษตรกร โดยทั้ง 3 ประเทศลดปริมาณการผลิตลง โดยส่งเสริมให้เกษตรกรตัดโค่นสวนยางที่มีอายุมากออกระบบ รวม 1.06 ล้านไร่ ซึ่งไทยต้องลดพื้นที่การผลิต 2 ส่วน อินโดนีเซีย 1.5 ส่วน และมาเลเซีย 1.0 ส่วน ผลดังกล่าวทำให้ผลผลิตยางในปีนี้ ลดลง 2.15 แสนตัน และยังมีแผนการชะลอการส่งออกประมาณ 7 แสนตัน

• สศค. วิเคราะห์ว่า ในเม.ย. 52 ราคายางพาราแผ่นดิบชั้น 3 อยู่ที่ระดับ 48 บาทต่อกก. หดตัวลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ร้อยละ -40.6 ต่อปี ดังนั้น ผลจากมาตรการดังกล่าวจะช่วยให้ราคายางพาราที่ชะลอลงมาแต่ปลายปี 51 นั้น ปรับตัวสูงขึ้นได้บ้าง นอกจากนี้ จากปัจจัยบวกเรื่องเศรษฐกิจจีนมีสัญญาณการฟื้นตัวขึ้น ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นประมาณ 8-9% คาดว่าจะมีส่วนช่วยให้ราคายางปรับตัวสูงขึ้นอีกทางหนึ่ง

• นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เปิดเผยว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะกลับมาขยายตัวอีกครั้งภายในสิ้นปีนี้ ภายหลังจากตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนและ ภาคอสังหาริมทรัพย์เริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยยอดคงค้างบ้านเก่าปรับตัวลดลง ขณะที่ตัวเลขสินค้าคงเหลือ (inventory liquidation) มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าเศรษฐกิจจะค่อยๆ ฟื้นตัวและการว่างงานจะยังคงอยู่ในระดับสูงสักระยะหนึ่ง เนื่องจากภาคเอกชนยังคงระมัดระวังในการจ้างแรงงานเพิ่ม

• สศค. วิเคราะห์ว่า การที่เศรษฐกิจของสหรัฐมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นนั้น คาดว่าเป็นผลจากมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจของสหรัฐ ทั้งมาตรการด้านการคลัง เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐและเอกชน และมาตรการด้านการเงิน โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและเข้าช่วยเหลือปัญหาสภาพคล่องของสถาบันการเงินและธุรกิจที่มีปัญหา ทั้งนี้ มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจของสหรัฐมูลค่า 787 พันล้านเหรียญสหรัฐในสมัยของประธานาธิบดี โอบามานั้น จำแนกเป็น มาตรการภาษีร้อยละ 48 การก่อสร้างสาธารณูปโภคร้อยละ 32 และมาตรการด้านสังคมร้อยละ 23

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th