รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 26 มิถุนายน 2552

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 26 มิ.ย. 2552

1. ม.หอการค้าไทย คาดส่งออกปี 52 ติดลบร้อยละ 17-22

2. ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดส่งออก-ลงทุน-ท่องเที่ยว ไทย-จีน มีทิศทางปรับดีขึ้น

3. ส่งออกฮ่องกง หดตัวเป็นเดือนที่ 7 แต่หดตัวน้อยลง

• ม.หอการค้าไทย ประเมินแนวโน้มการส่งออกของไทยปี 52 ว่าจะอยู่ประมาณ 146,331 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือหดตัวร้อยละ( -22.7)-(-17.7) ต่อปี โดยคาดว่าครึ่งหลังของปีจะมีมูลค่า 76,183 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือหดตัวร้อยละ -14.1 ต่อปี จากปัจจัยเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว ในขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดปีนี้ คาดว่าจะเกินดุล 12,956 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากที่ขาดดุล 177 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี51

• สศค. วิเคราะห์ว่า การส่งออกของไทยในช่วง 5 เดือนแรกของไทยในปี 52 หดตัวถึงร้อยละ -22.9 ต่อปี ผลจากเศรษฐกิจคู่ค้าที่หดตัวจากวิกฤตการเงินและเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ สศค. คาดว่า เศรษฐกิจโลกจะเริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี ทำให้การส่งออกของไทยในปี 2552 นี้ หดตัวที่ร้อยละ -20.2 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ร้อยละ (-21.2)-(-19.2) ต่อปี) ขณะที่การนำเข้าจะหดตัวร้อยละ -31.7 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ร้อยละ (-32.7)-(-30.7) ต่อปี) จากการนำเข้าที่หดตัวมากกว่าการส่งออก ทำให้ดุลการค้าเกินดุล ส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยเกินดุล 23.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นร้อยละ 9.0 ของ GDP

• ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์การส่งออกไทยไปจีนช่วงครึ่งหลังปี 52 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น และจะเป็นบวกในไตรมาส 4 ขณะที่ครึ่งปีแรกอาจติดลบร้อยละ 20 ส่งผลให้ทั้งปี 52 ติดลบระหว่างร้อยละ 3 — 8 ทั้งนี้ การค้าไทย-จีน มีปัจจัยสนับสนุนจากการเปิด FTA อาเซียน-จีน ที่กำหนดให้ลดภาษีศุลกากรระหว่างกันสำหรับสินค้าสัดส่วนร้อยละ 90 ให้อัตราภาษีเหลือร้อยละ 0 ในปี 53 ขณะที่การลงทุนของจีนในไทยในช่วง 5 เดือนแรกปี 52 มีทิศทางปรับตัวดีขึ้น โดยมูลค่าโครงการลงทุนเพิ่มขึ้นร้อยละ 161 เป็น 459.6 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามภาวะเศรษฐกิจจีนที่มีทิศทางปรับดีขึ้นจากมาตรการภาครัฐที่ส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนขยายตัวต่อเนื่อง อีกทั้งเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มฟื้นตัวจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศรวมถึงจีนเข้ามาเที่ยวในไทยมากขึ้นในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้

• สศค. วิเคราะห์ว่า ภาวะเศรษฐกิจที่มีทิศทางดีขึ้นของประเทศจีน ส่งผลด้านบวกต่อการส่งออกและการลงทุนของไทย เนื่องจากจีนเป็นประเทศคู่ค้าลำดับที่ 4 ของไทย ที่มีสัดส่วนการส่งออกขอไทยไปจีนประมาณร้อยละ 9.1 ทั้งนี้ จากแรงหนุนของมาตรการภาครัฐของจีนที่ส่งผลให้ภาคการผลิตและการลงทุนขยายตัวแล้ว ยังจะเป็นแรงดึงดูดให้นักธุรกิจจีนเข้ามาลงทุนผลิตวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางในไทยเพื่อสนองอุปสงค์ภาคอุตสาหกรรมของจีนที่ยังเติบโตได้ บวกกับความต้องการของจีนที่จะให้ไทยเป็นศูนย์กระจายสินค้าในอาเซียน จะส่งผลดีต่อการค้าการลงทุนของไทย

• สำนักงานสถิติฮ่องกงประกาศข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าของฮ่องกงเดือนพ.ค.52 หดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 ที่ร้อยละ -14.5 ต่อปี ชะลอลงจากร้อยละ -18.2 ต่อปีในเดือนก่อนหน้า โดย re-export ซึ่งมีสัดส่วนกว่าร้อยละ 97 ของการส่งออกรวม หดตัวชะลอลงที่ร้อยละ -13.7 ต่อปี ในขณะที่ domestic export หดตัวร้อยละ -19.2 ต่อปี ในแง่มิติสินค้า การส่งออกเครื่องจักรไฟฟ้าและสินค้าอุตสาหกรรมเบ็ดเตล็ดหดตัวถึงร้อยละ -12.0 และ -15.9 ต่อปี ตามลำดับ ในแง่มิติคู่ค้า การส่งออกไปยังจีน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น หดตัวถึงร้อยละ -10.8 -34.6 และร้อยละ -20.9 ตามลำดับ แต่การส่งออกไปยังตลาดใหม่ เช่นไต้หวันและอินเดียขยายตัวเล็กน้อยที่ร้อยละ 1.5 และ 0.3 ต่อปี ในขณะที่การนำเข้าสินค้าเดือน พ.ค.52 หดตัวร้อยละ -19.2 ต่อปี เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -17.0 ต่อปี ทำให้ดุลการค้าฮ่องกงเดือน พ.ค. 52 ขาดดุลที่ -11.0 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง

• สศค. วิเคราะห์ว่า การส่งออกและนำเข้าของฮ่องกงที่ยังคงหดตัวอย่างต่อเนื่องนั้น มีสาเหตุสำคัญจากการที่เศรษฐกิจโลกถดถอย ซึ่งการหดตัวของการส่งออกนำเข้านี้ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจฮ่องกงอย่างรุนแรง เนื่องจากฮ่องกงเป็นเศรษฐกิจแบบเปิดมากเป็นพิเศษ (Ultra-open economy) มีสัดส่วนการเปิดประเทศกว่า 4 เท่าของ GDP ทำให้ GDP ฮ่องกงในไตรมาส 4 ปี 51 และไตรมาส 1 ปี 52 หดตัวมากถึงร้อยละ -2.5 และ 7.8 ต่อปี ตามลำดับ ตามการส่งออกที่ถดถอย อย่างไรก็ตาม การส่งออกของฮ่องกงไปยังจีนและตลาดใหม่ จะเป็นปัจจัยที่ช่วยประคับประคองเศรษฐกิจฮ่องกงให้ผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ อนึ่ง สศค.คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจฮ่องกงในปี 2552 นี้ จะหดตัวที่ร้อยละ -6.3 ต่อปี หรือที่ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ -6.5 ถึง -6.0 ต่อปี

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th