สรุปความเห็นนักวิเคราะห์ต่อทิศทางตลาดเงินตลาดทุนสัปดาห์นี้
คาดว่าค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อน โดยนักวิเคราะห์ 5 รายมองว่า ค่าเงินบาทน่าจะแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากการไหลเข้ามาของเงินลงทุน ในตลาดหลักทรัพย์และการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในตลาดโลก ส่วนนักวิเคราะห์ 4 รายเห็นว่าเงินบาทจะอ่อนค่าจากการที่ค่าเงินบาทยังคงเคลื่อนไหวอยู่ ในกรอบแคบๆ เพื่อรอปัจจัยใหม่มากำหนดทิศทางของค่าเงินบาท
คาดว่า Bond Yield อายุ 2 ปี จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยมีนักวิเคราะห์ 5 รายมองว่า Yield จะปรับเพิ่มขึ้น หลังจากที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างมากในสัปดาห์ก่อน และไม่น่าจะทำให้ผลต่อบแทนลดลงไปมากกว่านี้เพราะว่าอาจมีการขายทำกำไรออกมา ประกอบกับความกังวลในอุปทานพันธบัตรรัฐบาลที่กำลังจะออกมาในเร็ววันนี้ ส่วนนักวิเคราะห์ 3 รายมองว่า Yield จะปรับลดลง เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังคงเคลื่อนไหวตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งในสัปดาห์นี้ไม่มีการประมูลพันธบัตรใหม่และธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีการเข้าซื้อพันธบัตรเพิ่มอีกในวันที่ 30 มิถุนายนและ 1 กรกฎาคม ซึ่งจะเป็นแรงกดดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ลดลง
สำหรับ Bond Yield อายุ 10 ปี นักวิเคราะห์ 5 รายคาดว่าแนวโน้มทิศทางอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากสัปดาห์นี้ มีการประมูลพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี อาจทำให้ผลตอบแทนสูงขึ้นเล็กน้อย ส่วนนักวิเคราะห์ 3 รายเห็นว่า Yield จะปรับลดลงเล็กน้อยจากแรงซื้อของนักลงทุนในช่วง ปิดงวดครึ่งปีแรกของปี ทำให้อัตราผลตอบแทนมีโอกาสปรับตัวลงได้ อย่างไรก็ดี อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากการคาดการณ์เกี่ยวกับแรงกดดันเงินเฟ้อ อาจเป็นปัจจัยชี้นำและส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวของไทยปรับตัวลงได้ไม่นานนัก
คาดว่า SET มีแนวโน้มปรับตัวลดลง โดยนักวิเคราะห์ 7 รายคาดว่า SET จะปรับตัวลดลง เนื่องจากน่าจะมีการปรับฐานของ SET นอกจากนี้การฟื้นตัวทาง เศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอน ตลาดมีความเปราะบางสูง และมีปริมาณการซื้อขายน้อย รวมทั้งผลตอบแทนการลงทุน 3 เดือนของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยสูงถึง ร้อยละ 60 ซึ่งเสี่ยงต่อการขายทำกำไร ส่วนนักวิเคราะห์ 3 รายคาดว่า SET จะปรับตัวสูงขึ้น จากปัจจัยบวกจากการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของไทย สหรัฐฯ และญี่ปุ่นที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น
นักวิเคราะห์ 6 ราย คาดว่านักลงทุนต่างชาติจะซื้อสุทธิใน SET เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติจะยังคงสะสมหลักทรัพย์ สำหรับนักลงทุนสถาบัน คาดว่าจะยังคงขายสุทธิใน SET เพื่อทำกำไรหลังจบ Window Dressing
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th