นายแพทย์พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มอบหมายให้กรมบัญชีกลางเร่งพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์การเบิกค่ายาสมุนไพรที่อยู่นอกบัญชียาหลักแห่งชาติด่วน
นายแพทย์พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ เปิดเผยว่า หลังจากที่กระทรวงการคลังได้ออกแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการเบิกค่ารักษาพยาบาลประเภทวิตามินและยาสมุนไพรออกไป โดยให้เบิกเฉพาะวิตามินและเกลือแร่ที่ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นยา จาก อย. ที่มีคุณสมบัติในการบำบัดรักษาโรค ตามรายการและเงื่อนไขที่กำหนดในบัญชียาหลักแห่งชาติเท่านั้น และรวมถึงยาสมุนไพรเฉพาะรายการ รูปแบบ ความแรง ข้อบ่งใช้ ที่กำหนดในบัญชียาจากสมุนไพรและเภสัชตำรับโรงพยาบาล ซึ่งเป็นรายการในบัญชียาหลักแห่งชาติเท่านั้นเช่นเดียวกัน ซึ่งได้มีการร้องเรียนว่าปัจจุบันบัญชียาหลักแห่งชาติยังไม่ครอบคลุมโรคที่แพทย์แผนไทยและแพทย์แผนไทยประยุกต์จำเป็นต้องใช้ จึงได้มอบหมายให้กรมบัญชีกลางไปพิจารณาข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร และจะมีแนวทางปฏิบัติในเรื่องดังกล่าวอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ และเกิดประโยชน์ต่อบุคลากรของรัฐ
นายแพทย์พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ.2552 ได้รับจัดสรรงบประมาณสำหรับสวัสดิการรักษาพยาบาล จำนวน 48,500 ล้านบาท จนถึงเดือนมิถุนายน 2552 ได้มีการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลฯ แล้วจำนวน 42,533 ล้านบาท และจากการตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ โดยกรมบัญชีกลาง พบว่า การเบิกค่ายาหรือผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรที่มิได้ใช้ในการบำบัดรักษาโรคโดยตรงหรือมีลักษณะเป็นการส่งเสริมสุขภาพ หรือเป็นยาที่ไม่มีข้อบ่งชี้ชัดเจน เช่น ยาอายุวัฒนะ ซึ่งหลายรายการเป็นยาใหม่ที่จะต้องมีการติดตามเฝ้าระวังในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัย จึงได้กำหนดแนวทางปฏิบัติดังกล่าวออกไป ก็เพื่อป้องกันและคุ้มครองสวัสดิภาพของผู้ป่วย เนื่องจากยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ แต่ละชนิดรวมทั้งยาสมุนไพร ได้ผ่านการพิจารณาและกำหนดโดยคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ และคณะทำงานคัดเลือกยาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านยา และสมุนไพร จากหลายแห่ง เช่น มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ตัวแทนเครือข่ายส่งเสริมการใช้ยาสมุนไพรแห่งประเทศไทย มูลนิธิสุขภาพไทย มูลนิธิการพัฒนาแพทย์แผนไทย ชมรมเภสัชชนบท กลุ่มศึกษาปัญหายา กลุ่มพัฒนาภูมิปัญญาไทย ซึ่งได้คัดเลือกยาจากสมุนไพรบรรจุ ในบัญชียาหลักแห่งชาติและจัดทำรายละเอียดข้อมูลทางวิชาการของยาจากสมุนไพร ที่สามารถบำบัดรักษาและครอบคลุมกลุ่มโรคต่าง ๆ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและความเหมาะสมในการรักษา
“อย่างไรก็ดี หากผลการพิจารณาแล้วข้อเท็จจริงปรากฏว่า มีสมุนไพรอีกหลายอย่างที่มีสรรพคุณในการรักษาพยาบาลและมีความปลอดภัย แต่ยังไม่ได้กำหนดไว้ในบัญชียาหลักแห่งชาติก็ต้องมีการทบทวนหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายดังกล่าวต่อไป เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับประโยชน์และมีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง” นายแพทย์พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ กล่าวต่อท้าย
สำนักมาตรฐานค่าตอบแทนและสวัสดิการ
โทร. 02-273-9579
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 80/2552 1 กรกฎาคม 52--