รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 3 กรกฎาคม 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 3, 2009 11:20 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 3 ก.ค. 2552

SUMMARY:

1. นายกรัฐมนตรี และธปท.เผย เชื่อว่าประเทศไทยจะไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด

2. ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์สถานการณ์ท่องเที่ยวของประเทศไทยปรับตัวลดลง

3. ดัชนีภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6

HIGHLIGHT:
1. นายกรัฐมนตรี และธปท.เผย เชื่อว่าประเทศไทยจะไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืดฝืด
  • นายกรัฐมนตรี เผยเชื่อว่าประเทศไทยจะไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด แม้ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์จะประกาศอัตราเงินเฟ้อที่พบว่าติดลบต่อเนื่องกันถึง 6 เดือน เพราะเชื่อว่าเมื่อรัฐบาลใช้เงิน 8 แสนล้านบาทจากกฎหมายการกู้เงินทั้ง 2 ฉบับ เพื่อนำมาลงทุนตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็จะทำให้เกิดเม็ดเงินที่ลงไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ เกิดการจ้างงาน และไม่ทำให้เกิดภาวะเงินฝืด
  • อีกทั้ง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ไม่กังวลต่ออัตราเงินเฟ้อของไทยที่ติดลบต่อเนื่อง เนื่องจากเงินเฟ้อที่ติดลบ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการช่วยเหลือ ค่าครองชีพประชาชน รวมถึงราคาน้ำมันที่ลดลง
  • สศค. วิเคราะห์ว่า อัตราเงินเฟ้อของไทยที่ติดลบต่อเนื่อง ถึง 6 เดือน และส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในครึ่งปีแรกนี้ ลดลงร้อยละ -1.6 ต่อปี สาเหตุสำคัญมาจากราคาน้ำมันสูงขึ้นในอัตราที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บวกกับมาตรการของรัฐบาล 2 ส่วน ส่วนที่ 1 คือ 5 มาตรการ 6 เดือน และส่วนที่ 2 คือ มาตรการเรียนฟรีไม่ต้องเสียค่าชุดนักเรียนและแบบเรียน ทำให้ผู้บริโภครับภาระค่าครองชีพน้อยลง เสมือนว่าราคาสินค้าถูกลง อัตราเงินเฟ้อเลยติดลบ ซึ่งหากราคาสินค้าลดลงเองอย่างต่อเนื่องโดยอัตโนมัติจึงจะเรียกว่าเงินฝืด อย่างไรก็ตาม หากดูอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เพิ่งติดลบเป็นเดือนที่ 2
2. ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์สถานการณ์ท่องเที่ยวของประเทศไทยปรับตัวลดลง
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์สถานการณ์ท่องเที่ยวของประเทศไทยว่าโดยรวมตลอดทั้งปี 52 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามายังไทยประมาณ 12.53 ล้านคน ลดลงร้อยละ 14 ส่งผลให้รายได้ด้านการท่องเที่ยวลดลงจากปี 51 ถึงกว่า 1 แสนล้านบาท และส่งผลกระทบโดยรวมต่อสภาพคล่องของธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก โดยรวมในช่วงครึ่งแรกของปี 52 นักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยจึงมีแนวโน้มหดตัวลงเกือบร้อยละ 20 จากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า ศูนย์วิจัยฯ ได้ประเมินว่านักท่องเที่ยวต่างชาติคาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 52 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามายังไทยรวมทั้งสิ้นประมาณ 6.0 ล้านคน ลดลงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีจำนวน 6.66 ล้านคน โดยปรับลดลงร้อยละ 11
  • สศค. วิเคราะห์ว่า จากการประเมินผลกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากนักท่องเที่ยวโดยใช้ Macro Model พบว่า ในกรณี Most likely case นักท่องเที่ยวจะเข้ามา 12.2 ล้านคน หายไปราว 1.8 ล้านคนจากกรณีก่อนมีเหตุการณ์การเมืองและไข้หวัดใหญ่ คิดเป็นรายได้สูญเสียราว 146 พันล้านบาท และจะส่งผลให้เศรษฐกิจปี 52 หดตัวมาอยู่ที่ร้อยละ -3.0 ต่อปี (แถลงข่าว 25 มิ.ย. 52) ภายใต้สมมติฐานว่านักท่องเที่ยวจะกลับมาแตะระดับ 1 ล้านคน ได้ภายใน 3 เดือนจากนี้ไป
3. ดัชนีภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6
  • สถาบันเพื่อการบริหารเสบียง (Institute for Supply Management) เผยตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคอุตสาหกรรม (Manufacturing Purchasing Manager Index) ของสหรัฐฯ เดือนมิ.ย. 52 ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ที่ระดับ 44.8 สูงขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 42.8 โดยการผลิต การจ้างงาน และความเร็วของการส่งสินค้าจากผู้ผลิตมีการขยายตัว ในขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าใหม่ และสินค้าคงคลังยังคงหดตัวเล็กน้อย
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การที่ดัชนีภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ น่าจะผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 1 ไปแล้ว อย่างไรก็ตามดัชนีที่ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ยังเป็นสัญญาณว่าภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ซึ่งมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 20 ของ GDP ยังคงอยู่ในภาวะหดตัว อีกทั้งสัญญาณการฟื้นตัวของภาคอื่นๆ ของเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงคลุมเครือ โดยจะเห็นได้จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย. 52 ที่ปรับลดลงจากเดือนก่อนหน้าบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของโลกอาจใช้เวลานานกว่าที่หลายฝ่ายคาด

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ