รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 13 กรกฎาคม 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Monday July 13, 2009 12:19 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 13 ก.ค. 2552

SUMMARY:

1. ครม.อนุมัติแผนบริหารโครงการไทยเข้มแข็ง1.56 ล้านล้านบาท

2. สภาอุตสาหกรรมคาดผู้เข้าร่วมโครงการต้นกล้าอาชีพปี 52 ทั้งสิ้น 2.4 หมื่นคน

3. ปรับคาดการณ์เอเชีย “ไอเอ็มเอฟ” ชี้โต 5.5%

HIGHLIGHT:
1. ครม.อนุมัติแผนบริหารโครงการไทยเข้มแข็ง 1.56 ล้านล้านบาท
  • รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งปี 2555 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอและรับทราบความคืบหน้าในการพิจารณากลั่นกรองโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการดังกล่าว โดยโครงการภายใต้แผนไทยเข้มแข็งที่ ครม.อนุมัติไว้ 1.56 ล้านล้านบาทนั้น ขณะนี้ได้อนุมัติโครงการไปแล้ว 1.06 ล้านล้านบาท และได้มีการขยายเวลาการพิจารณาโครงการถึงกลางเดือน ก.ค.52 เนื่องจากบางโครงการยังไม่ได้มีแผนการใช้เงินที่ชัดเจน
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การลงทุนในโครงการ SP2 จะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยสามารถขยายตัวสูงขึ้นกว่ากรณีฐานเฉลี่ยร้อยละ 1.3 ต่อปี ในช่วงปี 2553 — 2555 และจะไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจด้านดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ถึงแนวโน้มภาระหนี้สาธารณะต่อ GDP ที่จะเกิดขึ้นในกรณีของการลงทุน SP2 พบว่า แนวโน้มภาระหนี้สาธารณะต่อ GDP จะเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ระดับร้อยละ 60.8 ต่อ GDP ณ สิ้นปี 2556 อย่างไรก็ตาม สัดส่วนหนี้สาธารณะคาดว่าจะปรับตัวลดลงหลังจากปี 2557 ขึ้นอยู่กับสมมติฐานสำคัญได้แก่ อัตราขยายตัวของเศรษฐกิจกลับเข้าสู่ภาวะปกติที่ร้อยละ 5.5 ต่อปี พร้อมทั้งรัฐบาลสามารถจัดทำงบประมาณแบบสมดุลภายหลังปีงบประมาณ 2557 ซึ่งการรักษาวินัยทางการคลังจะเป็นสิ่งสำคัญของนโยบายการคลังในระยะต่อไป
2. สภาอุตสาหกรรมคาดผู้เข้าร่วมโครงการต้นกล้าอาชีพปี 52 ทั้งสิ้น 2.4 หมื่นคน
  • สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท) กล่าวว่า ปี 2552 คาดว่าจะมีแรงงานเข้าร่วมโครงการฝึกอบรมต้นกล้าอาชีพจำนวนทั้งสิ้น 2.4 หมื่นคน ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 1 แสนคน เนื่องจากปัญหาความล่าช้าในช่วงต้นของโครงการจากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในรายละเอียดโครงการระหว่างภาครัฐและเอกชน ประกอบกับเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ในปี 53 ส.อ.ท. ตั้งเป้าจะชะลอการเลิกจ้าง 1 แสนคน โดยจะใช้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่าผู้ประกอบการจะสนใจเข้าร่วมโครงการมากขึ้นและโรงงานส่วนหนึ่งยังต้องการความช่วยเหลือ
  • สศค. วิเคราะห์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2552 มีแนวโน้มหดตัวที่ร้อยละ -3.0 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ -3.5 ถึง -2.5 ต่อปี) โดยมีปัจจัยลบจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลักของไทยหดตัวรุนแรง ส่งผลให้การส่งออก การใช้จ่ายในประเทศหดตัวมากกว่าที่คาด ทั้งนี้ อัตราการว่างงาน ณ เดือน เม.ย.52 เท่ากับร้อยละ 2.1 หรือคิดเป็นจำนวนคนว่างงาน 8.1 แสนคน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 1.9
3. ปรับคาดการณ์เอเชีย “ไอเอ็มเอฟ” ชี้โต 5.5%
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจเอเชียในปี 2552 ณ เดือนก.ค.จากเดิมในเดือนเม.ย.ที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 4.8 ต่อปี มาอยู่ที่ร้อยละ 5.5 ต่อปี โดยมีปัจจัยหลักมาจากการคาดการณ์เศรษฐกิจจีนและอินเดียที่คาดว่าจะดีขึ้นอันเป็นผลมาจากการกระตุ้นเศรษฐกิจมหภาค โดยปรับคาดการณ์ของจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 ขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 7.5 ต่อปี และอินเดียเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 มาอยู่ที่ร้อยละ 5.4 ต่อปี ขณะที่ในปี 2553 มีการคาดการณ์เศรษฐกิจเอเชียเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ร้อยละ 6.1 ต่อปีมาอยู่ที่ร้อยละ 7.0 ต่อปี อย่างไรก็ตาม IMF เตือนว่าการเติบโตจะไปได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่นั้นยังต้องอาศัยการพื้นตัวของประเทศที่พัฒนาแล้ว เนื่องจากประเทศเอเชียยังพึ่งพาการส่งออกไปยังประเทศเหล่านั้น
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจบางตัวของเอเชีย เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นของทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคเพิ่มขึ้น แสดงถึงสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโดยรวมของเอเชีย โดยส่งผลมาจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน เวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดีย ทั้งนี้ สศค. คาดการณ์เศรษฐกิจจีนว่าจะขยายตัวจากร้อยละ 7.4 ต่อปี และเศรษฐกิจอินเดียจะขยายตัวที่ร้อยละ 4.3 ต่อปี อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจกลุ่มประเทศยูโรโซน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ยังคงมีการหดตัวต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลให้เศรษฐกิจของอาเซียนที่พึ่งพาการส่งออกในสัดส่วนที่สูงยังได้รับผลกระทบต่อเนื่อง

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ