ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจ ดังนี้
1. ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทำให้ญี่ปุ่นมีรายได้จากการเก็บภาษีลดลงน้อยที่สุดในรอบ 5 ปี
2. ครึ่งปีแรกของปีนี้ มีบริษัทญี่ปุ่น 38 บริษัทถูกถอนชื่อออกจากตลาดหลักทรัพย์โตเกียว เป็นจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2499
3. ยอดการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน พ.ค.52 ลดลงร้อยละ 34.3
-------------------------------------
รายได้จากการเก็บภาษีในปีงบประมาณ 2551 ลดลง 2.16 ล้านล้านเยนจากเป้าหมาย ซึ่งเป็นรายได้น้อยที่สุดเป็นครั้งแรกรอบ 5 ปี จากสภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปัจจุบันได้ส่งผลให้รายได้จากการเก็บภาษีต่ำกว่าเป้าหมาย โดยรายได้จากการเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลลดลงมากกว่าร้อยละ 30 จากปีงบประมาณก่อนหน้า มีจำนวน 10.11 ล้านล้านเยน เนื่องจากผู้ประกอบการการส่งออกรถยนต์และเครื่องไฟฟ้ามีผลกำไรลดลงอย่างมาก ในขณะที่รายได้จากการเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาก็ลดลงร้อยละ 6.8 มีจำนวน 14.99 ล้านล้านเยน เนื่องจากรายได้ครัวเรือนลดลง และการขาดทุนจากราคาหลักทรัพย์ลดลง ส่วนรายได้การเก็บภาษีการบริโภคลดลงร้อยละ 2.9 จากปีงบประมาณก่อนหน้า มีจำนวน 9.97 ล้านล้านเยน
ส่วนหนี้สาธารณะในรูปพันธบัตรรัฐบาลมีจำนวน 33.17 ล้านล้านเยน คิดเป็นร้อยละ 39.2 ของรายจ่ายปีงบประมาณปกติ (General Account) อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังจะต้องออกพันธบัตรเพิ่มขึ้นเพื่อทดแทนการขาดดุลงบประมาณปี 2551 ที่มีจำนวน 71.8 พันล้านเยน
ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (Tokyo Stock Exchange: TSE) เปิดเผยว่าครึ่งปีแรกของปีนี้ มีบริษัทญี่ปุ่น 38 บริษัทถอนชื่อออกจากการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ TSE นับเป็นจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2499 เป็นผลมาจากการล้มละลายของบริษัทต่างๆ จำนวนมาก รวมทั้งมีการควบรวมกิจการ (M&As) กันมากขึ้นเพื่อความอยู่รอดของธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากภาวะถดถอยของเศรษฐกิจ
ในขณะเดียวกัน ในครึ่งปีแรกของปีนี้ มีบริษัทจำนวน 13 บริษัทเข้าจดทะเบียนซื้อขายใน TSE เทียบกับ 32 บริษัท ในระยะเดียวกันของปีก่อนหน้า จึงทำให้ ณ สิ้นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมามีบริษัทที่จดทะเบียนใน TSE ทั้งหมด 2,364 บริษัท
ในจำนวน 38 บริษัทที่ถูกถอนชื่อออกจาก TSE มี 11 ล้มละลายและอีก 20 ถูกถอนชื่อเพราะมีการ M&As ทั้งนี้ จำนวนบริษัทที่จดทะเบียนใน TSE มีแนวโน้มลดลงเรื่อยมานับตั้งแต่ปี 2549 อย่างไรก็ตาม คาดว่าสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้นเนื่องจากเริ่มมีสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัวแล้ว
TSE เป็นตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นในจำนวน 6 ตลาดหลักทรัพย์ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดใหญ่ๆ ต่างๆ ของญี่ปุ่น
เมื่อวันที่ 8 ก.ค.52 กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน พ.ค.52 มีจำนวน 1.30 ล้านล้านเยน ลดลงร้อยละ 34.3 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนหน้า
ดุลการค้าและบริการเกินดุลลดลงร้อยละ 52.2 เป็นผลจากดุลการค้าลดลงร้อยละ 22.1 ที่เกิดจากการส่งออกลดลงถึงร้อยละ 42.2 เนื่องจากการส่งออกรถยนต์ไปยังสหรัฐฯและยุโรปไม่ปรับตัวดีขึ้นมานานแล้ว ในขณะที่การขาดดุลบริการได้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก
ส่วนการเกินดุลรายได้จากดอกเบี้ยและเงินปันผล จากการลงทุนต่างประเทศลดลงร้อยละ 24.5 ลดลงเป็นเดือนที่ 8 แล้ว จากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯและยุโรปถดถอยทำให้บริษัทญี่ปุ่นได้รับเงินปันผลจากต่างประเทศลดลง รวมทั้งผลกำไรของบริษัทญี่ปุ่นในต่างประเทศก็ลดลงทำให้การลงทุนลดลงด้วย และยังเป็นผลจากค่าเงินเยนที่แข็งตัวขึ้นร้อยละ 7.5 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนหน้า
สำนักงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและการคลัง ณ กรุงโตเกียว
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th