Macro Morning Focus ประจำวันที่ 17 ก.ค. 2552
SUMMARY:
1. สถาบันอาหาร คาดครึ่งหลังปี 52 ตลาดฟื้นตัวดันยอดส่งออกอาหารทะลุ 7.2 แสนล้าน
2. Fed คาด GDP สหรัฐปี 52 หดตัวร้อยละ -1.3 ต่อปี
3. GDP จีนในไตรมาส 2 ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 7.9
HIGHLIGHT:
1. สถาบันอาหาร คาดครึ่งหลังปี 52 ตลาดฟื้นตัวดันยอดส่งออกอาหารทะลุ 7.2 แสนล้าน
- สถาบันอาหาร ประเมินแนวโน้มส่งออกสินค้าอาหาร ครึ่งหลังปี 52 โดยได้ปรับเป้าหมายมูลค่าการส่งออกอาหารปี 2552 ใหม่ เป็น 7.22 แสนล้านบาท จากที่ตั้งเป้าไว้เดิม 7 แสนบาท โดยขยายตัวติดลบร้อยละ 7.2 ต่อปี ซึ่งการปรับเป้าหมายดังกล่าว เนื่องจากการส่งออกสินค่าอาหารในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก โดยมีปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว และผู้บริโภคคลายกังวลจากภาวะเศรษฐกิจ รวมทั้งสินค้าอาหารสำเร็จรูปเป็นกลุ่มสินค้าที่มีความต้องการในตลาดสูง โดยในไตรมาสที่ 4/52 อาจจะเห็นอัตราการขยายตัวสินค้าอาหารส่งออกขยายตัวเป็นบวกร้อยละ 3.5 ต่อปี และคาดทั้งปีการส่งออกสินค้าอาหารเป็นจำนวนเงินมูลค่า 3.30 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 1.2 ต่อปี
- สศค. วิเคราะห์ว่า แนวโน้มที่ดีขึ้นการส่งออกสินค้าอาหารในครึ่งหลังของปี 52 จะส่งผลดีต่อรายได้เข้าประเทศที่เพิ่มขึ้น และลดผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าและเศรษฐกิจภายในประเทศของไทย รวมทั้งลดแรงกระทบต่อการถูกเลิกจ้างของแรงงาน โดยสาขาอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ในช่วง 5 เดือนแรกปี 52 มีการจ้างแรงงานจำนวนมากถึง 1.25 ล้านคน
2. Fed คาด GDP สหรัฐปี 52 หดตัวร้อยละ -1.3 ต่อปี
- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ปรับคาดการณ์ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐฯว่า ในปี 52 คาดว่าจะหดตัวที่ร้อยละ -1.5 ถึงร้อยละ -1.0 ต่อปี ดีขึ้นจากการคาดการณ์ครั้งก่อนเนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐมีสัญญาณฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังปี 52 ในขณะที่ปี 53 และปี 54 เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะปรับตัวเป็นบวกได้ที่ร้อยละ 2.1-3.3 และ 3.8-4.6 ต่อปี ตามลำดับ
- สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะหดตัวร้อยละ -2.0 ต่อปี และในปี 2553 คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.5 ต่อปี ซึ่งเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลสหรัฐฯประกาศในช่วงต้นปี 52 โดยจะเห็นได้จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ณ เดือนพฤษภาคม 2552 อยู่ที่ระดับ 54.9 ปรับตัวสูงขึ้นระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคเริ่มมีความเชื่อมั่นในสภาพเศรษฐกิจมากขึ้น
3. GDP จีนในไตรมาส 2 ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 7.9
- สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน ประกาศตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนในไตรมาส 2 ปี 52 อยู่ที่ร้อยละ 7.9 ต่อปี ขยายตัวเร่งขึ้นมากจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 6.1 ต่อปี ทำให้จีนกลายเป็นประเทศที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงสุดในโลกในครึ่งปีแรกของปี 52 ที่ร้อยละ 7.1 ต่อปี ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่หดตัว โดยในครึ่งปีแรก ภาคการลงทุนและการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ 6.2 และ 3.8 ต่อปี ตามลำดับ ผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลจีนประกาศเมื่อปลายปี 51 และการกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อภาคเอกชน
- สศค. วิเคราะห์ว่า GDP จีนในไตรมาส 2 ปี 52 ที่ปรับตัวดีขึ้นมากจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 6.1 ต่อปี นั้น เป็นผลจากการฟื้นตัวของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลจีนประกาศเมื่อปลายปี 51 และการกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อภาคเอกชน ทำให้ภาคอุตสาหกรรมและการบริโภคภาคเอกชน ตลอดจนถึงการลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรมีการฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม เมื่อเศรษฐกิจโลกพ้นภาวะวิกฤตและทำให้การส่งออกกลับมาเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนได้อีกครั้ง รัฐบาลจีนควรพิจารณาและจับตาดูแลนโยบายการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินเอกชน เพื่อไม่ให้ภาคการเงินจีนก่อหนี้ที่ทำให้ไม่เกิดรายได้ (NPL) ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจจีนในระยะต่อไป
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th