ผลการบริหารจัดการหนี้สาธารณะภาครัฐ ประจำเดือนมิถุนายน 2552 และรายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 24, 2009 10:37 —กระทรวงการคลัง

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ขอสรุปผลการดำเนินการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือนมิถุนายน 2552 พร้อมทั้งรายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2552 ดังนี้

ผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ

1. การปรับโครงสร้างหนี้ภาครัฐ

1.1 เดือนมิถุนายน 2552

หนี้ในประเทศ

กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนด จำนวน 40,000 ล้านบาท โดยการกู้เงินระยะสั้นมาเพื่อใช้เป็น Bridge Financing และจะดำเนินการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ในเดือนกันยายน 2552 โดย นำเงินที่ได้จากการออกพันธบัตรดังกล่าว ไปชำระคืนหนี้เงินกู้ระยะสั้นต่อไป

รัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ โดยทำการ Roll over วงเงินรวม 1,580 ล้านบาท โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้ทำการ Roll over หนี้เดิม วงเงิน 580 ล้านบาท และ 1,000 ล้านบาท ตามลำดับ

1.2 ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2552

หนี้ในประเทศ

กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้าง

หนี้ในประเทศ วงเงินรวม 119,999.20 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้เพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินในส่วนของ FIDF1 49,999.20 ล้านบาท และการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนด70,000 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจได้ทำการ Roll over หนี้เดิมรวม 28,407 ล้านบาท

2. การกู้เงินภาครัฐ

เดือนมิถุนายน 2552

กระทรวงการคลังได้กู้เงินในประเทศเพื่อชดเชย การขาดดุลงบประมาณโดยการออกพันธบัตรรัฐบาล วงเงินรวม 9,500 ล้านบาท

รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินในประเทศ วงเงินรวม 11,795 ล้านบาท โดยเป็นการกู้เพื่อลงทุนในโครงการของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย และการไฟฟ้า ส่วนภูมิภาค วงเงิน 507 ล้านบาท 193 ล้านบาท และ 1,351 ล้านบาท ตามลำดับ การกู้เงินบาทสมทบโดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย วงเงิน 99 ล้านบาท และ 350 ล้านบาท ตามลำดับ การกู้เพื่อทดแทนเงินกู้ต่างประเทศโดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย วงเงิน 50 ล้านบาท และ 650 ล้านบาท ตามลำดับ และการกู้เพื่อดำเนินกิจการทั่วไปโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ วงเงิน 4,000 ล้านบาท และ 4,595 ล้านบาท ตามลำดับ

ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2552

ภาครัฐได้กู้เงินในประเทศรวม 520,855 ล้านบาท โดยเป็นการกู้เงินของกระทรวงการคลัง 363,030 ล้านบาทและของรัฐวิสาหกิจ 157,825 ล้านบาท

3. การชำระหนี้ภาครัฐ

เดือนมิถุนายน 2552

กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้จากงบประมาณรวม 1,928 ล้านบาท โดยเป็นการชำระคืนเงินต้น 184 ล้านบาท ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 1,744 ล้านบาท

ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2552

กระทรวงการคลังได้ชำระคืนต้นเงินกู้ ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมจากงบประมาณรวม 111,787 ล้านบาท

รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม2552

          ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2552 มีจำนวน 3,834,086 ล้านบาท หรือร้อยละ 43.41     ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,478,361 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,038,811 ล้านบาท  หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน 207,966 ล้านบาท หนี้กองทุน เพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 105,193 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 3,755 ล้านบาท   เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อน หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น 35,070 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง หนี้รัฐวิสาหกิจ     ที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาล  ค้ำประกัน และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐเพิ่มขึ้น 32,576 ล้านบาท 2,554 ล้านบาท 2,905 ล้านบาท และ 72 ล้านบาท ตามลำดับ สำหรับหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 3,037 ล้านบาท รายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 4

การเพิ่มขึ้นสุทธิของหนี้สาธารณะคงค้างเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมานั้น ที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของ หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน และหนี้รัฐวิสาหกิจ ที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงเพิ่มขึ้นสุทธิ 32,576 ล้านบาท รายการที่สำคัญเกิดจากการออกตั๋วเงินคลัง จำนวน 60,081 ล้านบาท โดยเป็นการใช้วงเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ในปีงบประมาณ 2552 จำนวน 4,312 ล้านบาท ประกอบกับรัฐบาลได้ทำการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อชดเชย การขาดดุลงบประมาณ จำนวน 47,000 ล้านบาท นอกจากนี้ในเดือนพฤษภาคม 2552 มีพันธบัตรรัฐบาลครบกำหนด จำนวน 41,700 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อการชำระคืนต้นเงิน จำนวน 11,700 ล้านบาท จึงได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลโดยการกู้เงินระยะสั้น จำนวน 30,000 ล้านบาท แล้วจะดำเนินการออกพันธบัตรรัฐบาลในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2552 เพื่อนำเงินที่ได้จากการออกพันธบัตรไปทยอยชำระคืนต้นเงินกู้ระยะสั้น

สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินเพิ่มขึ้นสุทธิ 2,554 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกันในส่วนของหนี้ต่างประเทศ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสุทธิของหนี้ต่างประเทศในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อแปลงเป็นเงินบาทเพิ่มขึ้น

สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันเพิ่มขึ้นสุทธิ 2,905 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน รายการ ที่สำคัญเกิดจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้ออกพันธบัตร จำนวน 2,000 ล้านบาท

สำหรับหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 3,037 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการซื้อคืนพันธบัตรของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ที่กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน

หนี้สาธารณะ 3,834,086 ล้านบาท แยกออกเป็นหนี้ต่างประเทศ 381,224 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.94 และหนี้ในประเทศ 3,452,862 ล้านบาท หรือร้อยละ 90.06 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และเป็นหนี้ระยะยาว 3,373,804 ล้านบาท หรือร้อยละ 88.00 และหนี้ระยะสั้น 460,282 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.00 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง

ส่วนประสานสัมพันธ์นักลงทุน สำนักนโยบายและแผน

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ โทร. 0 2265 8050 ต่อ 5510

--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 93/2552 23 กรกฎาคม 52--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ