รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 30 กรกฎาคม 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 30, 2009 11:23 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 30 ก.ค. 2552

SUMMARY:

1. คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ห่วงบาทแข็งกระทบส่งออกสินค้าเกษตร

2. ครม.ไฟเขียว e-Auction ติดจรวด ประเดิมแผนลงทุนไทยเข้มแข็ง

3. ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (TISI) เดือน มิ.ย. 52 ปรับเพิ่มอยู่ที่ระดับ 83.5

HIGHLIGHT:
1. คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ห่วงบาทแข็งกระทบส่งออกสินค้าเกษตร
  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจวานนี้ (29 ก.ค.52 ) มีความกังวลในเรื่องทิศทางค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่ากว่าค่าเงินของประเทศคู่แข่งอย่างมาเลเซีย เวียดนาม ไต้หวัน และจีน ซึ่งจะกระ ทบต่อการส่งออกสินค้าไทย โดยเฉพาะสินค้าเกษตร เช่น ข้าว ยางพารา ที่มีมาเลเซีย เวียดนามเป็นคู่แข่งขันสำคัญ ในขณะที่สินค้าอุตสาหกรรม เช่น เสื้อผ้า สิ่งทอ อิเล็กทรอนิคส์ แข่งขันกับจีนและเวียดนาม ซึ่งหากปล่อยให้ค่าเงินบาทแข็งกว่าประเทศคู่แข่งดังกล่าว จะส่งผลให้ความสามารถในการแข่งขันการส่งออกไทยลดลง
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การบริหารค่าเงินบาทมีความจำเป็นที่ต้องสอดคล้องกับทิศทางค่าเงินในภูมิภาคเพื่อความรักษาศักยภาพในการแข่งขันด้านราคาของผู้ส่งออก อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกปัจจุบัน การทำให้ค่าเงินบาทอ่อนอาจไม่กระ ตุ้นให้ปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นมากนัก แต่จะมีความสำคัญมากต่อรายได้ของผู้ส่งออกเมื่อเปลี่ยนกลับอยู่ในรูปเงินบาท เพราะจะทำให้รายได้ในรูปของเงินบาทไม่ลดลงมากนัก ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องให้ผู้ประกอบการสามารถทำการผลิตสินค้าและก่อให้เกิดการจ้างงานต่อไป
2. ครม.ไฟเขียว e-Auction ติดจรวด ประเดิมแผนลงทุนไทยเข้มแข็ง
  • รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. มีมติเห็นชอบยกเว้นระเบียบสำนักนายก รัฐมนตรีว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีการประมูลในระบบ e-Auction โดยยกเว้นให้การดำ เนินการดังกล่าวไม่ต้องทำร่างทีโออาร์ ส่วนกรณีที่มีการยื่นอุทธรณ์ในโครงการลงทุนใดๆ ก็ให้สามารถเดินหน้าโครงการได้ต่อไปโดยไม่จำเป็นต้องหยุดพัก ทั้งนี้ คาดว่าจะช่วยร่นเวลาในกระ บวนการจัดซื้อจัดจ้างลงเหลือ 28 วัน จาก 85 วัน ซึ่งแนวทางนี้จะเริ่มใช้กับการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการลงทุนต่างๆ ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง (SP2)
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การยกเว้นและลดขั้นตอนในการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีการประมูล e-Auction จะช่วยลดระยะเวลาในการจัดซื้อจัดจ้างลง ทำให้สามารถเริ่มดำเนินโครงการในแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง (SP2) ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้เม็ดเงินจำนวนกว่า 1.43 ล้านล้านบาท ถูกอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทยในช่วงเวลาที่ต้องการ เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในหลายสาขา ทั้งนี้ สศค.คาดว่าโครงการต่างๆของแผน SP2 จะเริ่มขับเคลื่อนได้อย่างเต็มที่ในไตรมาสที่ 4/52 เป็นต้นไป ซึ่งจะช่วยทำให้เศรษฐกิจไทยในปี 53-55 ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากกรณีฐานเฉลี่ย

ร้อยละ 1.3 ต่อปีและเกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นอีกกว่า 5 แสนคนต่อปี

3. ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (TISI) เดือน มิ.ย. 52 ปรับเพิ่มอยู่ที่ระดับ 83.5
  • สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงข่าวดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน มิ.ย. 52 ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 83.5 จากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 78.5 เนื่องจากคำสั่งซื้อและยอดขายปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากนโยบายการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของไทยและต่างประเทศ ทั้งนี้ภาคเอกชนได้เสนอแนะให้รัฐบาลเร่งสร้างเสถียรภาพทางการ เมืองเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นในประเทศ และให้รัฐบาลเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะในโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งขอให้ธนาคารปล่อยเงินกู้เพื่อสนับสนุนสภาพคล่องให้ผู้ประ กอบการมากขึ้น เนื่องจากธนาคารพาณิชย์มีความเข้มงวดอย่างมากในการปล่อยสินเชื่อ นอก จากนี้ ภาครัฐควรดูแลค่าเงินบาท และราคาน้ำมัน ให้มีเสถียรภาพ
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การปรับเพิ่มขึ้นของดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน มิ.ย.52 นั้น ถือเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งสอดคล้องกับดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือน มิ.ย.52 ที่หดตัวเพียง -6.7 ต่อปี ถือเป็นการหดตัวในอัตราชะลอลงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน หลังจากที่หดตัวลงต่ำสุดที่ร้อยละ -25.5 ต่อปีในเดือน ม.ค. 52 โดยเป็นผลจากการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมจำพวกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นตามคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจากจีนสะท้อนว่าภาคการผลิตของไทยในบางอุตสาหกรรมกำลังเริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ