สรุปความเห็นนักวิเคราะห์ต่อทิศทางตลาดเงินตลาดทุนสัปดาห์นี้
คาดว่าค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อน โดยนักวิเคราะห์ 5 รายมองว่า ค่าเงินบาทน่าจะแข็งค่าขึ้นเนื่องจากจะมีเงินทุนไหลเข้าสู่ ภายในประเทศผ่านทางตลาดทุนอย่างต่อเนื่อง และตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ที่เริ่มออกมาดีขึ้น มีผลทำให้นักลงทุนต้องการรับความเสี่ยงผลตอบแทนที่สูงขึ้นในสกุลเงินอื่นนอกจากดอลลาร์ ดังนั้น จึงมีโอกาสที่ค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นได้ ส่วนนักวิเคราะห์ 3 รายเห็นว่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงและยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากยังคอยปัจจัยใหม่ๆ มากำหนดทิศทางตลาดที่ชัดเจน
คาดว่า Bond Yield อายุ 2 ปี จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยมีนักวิเคราะห์ 4 รายมองว่า Yield จะปรับเพิ่มขึ้น ผลจากอุปทานในการออกพันธบัตรและตราสารหนี้ ทั้งภาครัฐและเอกชนที่จะเพิ่มมากขึ้น นักวิเคราะห์ 2 รายมองว่า Yield มีแนวโน้มปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากอุปทานตราสารหนี้ภาคเอกชนที่ชะลอตัว ส่วนนักวิเคราะห์อีก 2 ราย มองว่า Yield ไม่น่ามีการเปลี่ยนแปลงมาก เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่จะซื้อแล้วถือพันธบัตร 2 ปีจำนวนมากทำให้ราคาในตลาดรองไม่ผันผวน อีกทั้งไม่มีปัจจัยใหม่มากำหนดทิศทางตลาด
สำหรับ Bond Yield อายุ 10 ปี นักวิเคราะห์ 5 รายมองว่า อัตราผลตอบแทนมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง อาทิ ตลาดหุ้นที่คาดว่าจะยังคงเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเป็นการปรับตัวขึ้นตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่สัปดาห์นี้มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากปริมาณพันธบัตรจำนวนมาก ที่ออกประมูลในช่วงสัปดาห์นี้ ส่วนนักวิเคราะห์อีก 3 รายเห็นว่า Yield มีแนวโน้มจะปรับลดลง เนื่องจากตลาดรองของพันธบัตรระยะยาวมีสภาพคล่องน้อยทำให้ผลตอบแทนจะลงได้ง่าย
คาดว่า SET มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยนักวิเคราะห์ 4 รายคาดว่า SET จะปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากคาดว่าตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 2 จะดีขึ้นส่วนนักวิเคราะห์ 4 รายคาดว่า SET จะปรับตัวลดลง เนื่องจากความเสี่ยงของการปรับฐานเพิ่มขึ้น
นักวิเคราะห์คาดว่านักลงทุนต่างชาติจะซื้อสุทธิใน SET เนื่องจากคาดหวังว่าเศรษฐกิจของเอเชียจะฟื้นตัวแบบ V-shape ส่วนนักลงทุนสถาบันจะซื้อสุทธิใน SET เนื่องจากจะซื้อเพื่อเก็งกำไร
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th