นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ขอสรุปผลการดำเนินการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือนกรกฎาคม 2552 พร้อมทั้งรายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2552 ดังนี้
ผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ
1. การปรับโครงสร้างหนี้ภาครัฐ
1.1 เดือนกรกฎาคม 2552
หนี้ในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดในเดือนพฤษภาคม 2552 จำนวน 3 รุ่น วงเงิน 30,000 ล้านบาท ในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2552 ซึ่งในเดือนมิถุนายนได้ดำเนินการออกพันธบัตรไปแล้ว 21,000 ล้านบาท และในเดือนกรกฎาคมได้ดำเนินการออกพันธบัตรรัฐบาล 9,000 ล้านบาท เพื่อนำเงินที่ได้จากการออกพันธบัตรไปทยอยชำระคืนต้นเงินกู้ระยะสั้นที่ใช้เป็น Bridge Financing ในการปรับโครงสร้างหนี้
รัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ โดยทำการ Roll over วงเงินรวม 8,712 ล้านบาท โดยการเคหะแห่งชาติ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพได้ทำการ Roll over หนี้เดิม วงเงิน 5,000 ล้านบาท 2,000 ล้านบาท 1,000 ล้านบาท และ 712 ล้านบาทตามลำดับ
1.2 ช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2552
หนี้ในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้าง
หนี้ในประเทศ วงเงินรวม 119,999.20 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้เพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินในส่วนของ FIDF1 49,999.20 ล้านบาท และการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนด70,000 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจได้ทำการ Roll over หนี้เดิมรวม 37,119 ล้านบาท
2. การกู้เงินภาครัฐ
เดือนกรกฎาคม 2552
กระทรวงการคลังได้กู้เงินในประเทศเพื่อชดเชย การขาดดุลงบประมาณ วงเงินรวม 65,000 ล้านบาท โดยเป็นการออกพันธบัตรรัฐบาล วงเงิน 35,000 ล้านบาท และออกพันธบัตรออมทรัพย์ วงเงิน 30,000 ล้านบาท และการกู้เงินตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 เพื่อสมทบเงินคงคลัง โดยการออกพันธบัตรออมทรัพย์ 50,000 ล้านบาท
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้กู้เงินในประเทศ วงเงินรวม 6,000 ล้านบาท โดยเป็นการกู้เงินบาทสมทบ 1,870 ล้านบาท กู้เพื่อทดแทนเงินกู้ต่างประเทศ 2,130 ล้านบาท และกู้เพื่อดำเนินกิจการทั่วไป 2,000 ล้านบาท
ช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2552
ภาครัฐได้กู้เงินในประเทศรวม 641,855 ล้านบาทโดยเป็นการกู้เงินของกระทรวงการคลัง 478,030 ล้านบาทและของรัฐวิสาหกิจ 163,825 ล้านบาท
3. การชำระหนี้ภาครัฐ
เดือนกรกฎาคม 2552
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้จากงบประมาณรวม 13,074 ล้านบาท โดยเป็นการชำระคืนเงินต้น 151 ล้านบาท ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 12,923 ล้านบาท
ช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2552
กระทรวงการคลังได้ชำระคืนต้นเงินกู้ ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมจากงบประมาณรวม 124,861 ล้านบาท
รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2552
ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552 มีจำนวน 3,831,290 ล้านบาท หรือร้อยละ 43.38 ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,466,915 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,052,711 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน 205,889 ล้านบาท หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 102,020 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ 3,755 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อน หนี้สาธารณะลดลง 2,796 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 11,446 ล้านบาท 2,077 ล้านบาท และ 3,173 ล้านบาท ตามลำดับ สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น 13,900 ล้านบาท ส่วนหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง
การลดลงสุทธิของหนี้สาธารณะคงค้างเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมานั้น ที่สำคัญเกิดจากการลดลงของหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงลดลงสุทธิ 11,446 ล้านบาท รายการที่สำคัญเกิดจากการปรับลดระดับตั๋วเงินคลังลง จำนวน 16,000 ล้านบาท เพื่อปรับระดับดุลเงินสดให้สอดคล้องกับกระแสเงินสดรับ - จ่ายของรัฐบาลในเดือนดังกล่าว ประกอบกับรัฐบาลได้ดำเนินการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ จำนวน 21,000 ล้านบาท เพื่อนำเงินที่ได้จากการออกพันธบัตรไปทยอยชำระคืนต้นเงินกู้ระยะสั้น ที่ใช้เป็น Bridge Financing วงเงิน 30,000 ล้านบาท ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดในเดือนพฤษภาคม 2552 นอกจากนี้รัฐบาลได้ทำการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 9,500 ล้านบาท
สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินเพิ่มขึ้นสุทธิ 13,900 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกันในส่วนของหนี้ในประเทศ รายการที่สำคัญเกิดจากการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพได้ออกพันธบัตร จำนวน 3,782 ล้านบาท
สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันลดลงสุทธิ 2,077 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการลดลงของหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน รายการที่สำคัญเกิดจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ไถ่ถอนพันธบัตร จำนวน 3,000 ล้านบาท และออกพันธบัตร จำนวน 1,000 ล้านบาท
สำหรับหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 3,173 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการซื้อคืนพันธบัตรของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ที่กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน
หนี้สาธารณะ 3,831,290 ล้านบาท แยกออกเป็นหนี้ต่างประเทศ 377,974 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.87 และหนี้ในประเทศ 3,453,316 ล้านบาท หรือร้อยละ 90.13 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และเป็นหนี้ระยะยาว 3,377,164 ล้านบาท หรือร้อยละ 88.15 และหนี้ระยะสั้น 454,126 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.85 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
ส่วนประสานสัมพันธ์นักลงทุน สำนักนโยบายและแผน
สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ โทร. 0 2265 8050 ต่อ 5510
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 112/2552 21 สิงหาคม 52--