รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 28 สิงหาคม 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 28, 2009 14:08 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 28 ส.ค. 2552

Summary

1. ธปท. เผยแบงก์ลดสเปรด เพิ่มสินเชื่อเข้าระบบ

2. รมว.กระทรวงพลังงาน เตือนวิกฤติราคาน้ำมันจะกลับมาอีก

3. เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ขยายตัวที่ร้อยละ 1.5 ต่อปี

Highlight
1. ธปท. เผยแบงก์ลดสเปรด เพิ่มสินเชื่อเข้าระบบ
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยผลการสำรวจภาวะการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินว่า ในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2552 ระบบสถาบันการเงินได้ผ่อนคลายเงื่อนไขการคิดอัตราดอกเบี้ย โดยกำหนดรายได้ (Margin) สำหรับลูกค้าจัดชั้นปกติของธุรกิจขนาดใหญ่และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ให้แคบลง ถือเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ไตรมาส 1 ของปี 2551 นอกจากนี้ ยังได้ปรับลดค่าธรรมเนียมต่างๆลงเล็กน้อยสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ด้วย อย่างไรก็ตาม สถาบันการเงินยังไม้ได้ทิ้งมาตรฐานการให้สินเชื่อทั้งภาคธุรกิจและภาครัวเรือนโดยยังมีความเข้มงวดต่อเนื่อง
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การที่สถาบันการเงินลดสเปรดดอกเบี้ยลงสะท้อนถึงความเสี่ยงการทำธุรกิจของสถาบันการเงินที่ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวในบางอุตสาหกรรมจากคำสั่งซื้อที่กลับเข้ามา โดยเฉพาะอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเคมีภัณฑ์ ที่ได้รับอานิสงค์จากคำสั่งซื้อสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากประเทศจีน นอกจากนี้ ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ปี 52 ที่ขยายตัวร้อยละ 2.3 (%qoq) จากไตรมาสก่อนยังสะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ทั้งนี้ การลดสเปรดดอกเบี้ยลงจะเป็นการช่วยลดต้นทุนของผู้ประกอบการในการลงทุน และจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจ ซึ่งจะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมอีกทางหนึ่งด้วย
2. รมว.กระทรวงพลังงาน เตือนวิกฤติราคาน้ำมันจะกลับมาอีก
  • นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.กระทรวงพลังงาน กล่าวว่าอาจเกิดวิกฤติราคาน้ำมันแพงอีกครั้งหลังเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น และเป็นไปได้ยากที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะลดต่ำกว่าระดับ 30 -40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ปริมาณสำรองพลังงานของโลกเริ่มลดลง จะเหลือใช้ได้อีก 30-40 ปีข้างหน้า ก๊าซธรรมชาติเหลือใช้ได้อีก 60-70 ปี และถ่านหิน เหลือใช้ได้อีก 147 ปี รัฐบาลจึงเร่งส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น เพื่อลดการพึ่งพาพลังงานเชื้อเพลิง โดยตามแผนพัฒนาการผลิตไฟฟ้า หรือ พีดีพี ระยะ 15 ปี จะผลักดันการใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นให้ได้ ร้อยละ 20 ภายในปี 2565 จากปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 6.4
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องภายหลังการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 2 ของสหรัฐฯ ที่หดตัวที่ร้อยละ -0.3 (%qoq) หดตัวน้อยกว่าไตรมาส 1 ที่หดตัวร้อยละ -1.6 (%qoq) สะท้อนให้เห็นว่าทิศทางเศรษฐกิจโลกเริ่มดีขึ้น ส่งผลให้ความต้องการน้ำมันเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดราคาน้ำมันดิบดูไบ ณ วันที่ 27 ส.ค. 52 อยู่ที่ 70.3 เพิ่มขึ้นมากจากต้นปีที่อยู่ระดับประมาณ 43.7 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ทั้งนี้ สศค. คาดว่าในปี 52 ราคาน้ำมันดูไบเฉลี่ยจะอยู่ที่ 55.0 — 65.0 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (ประมาณการณ์ ณ เดือน มิ.ย. 52)
3. เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ขยายตัวที่ร้อยละ 1.5 ต่อปี
  • สภาความร่วมมือทางเศรษฐกิจฟิลิปปินส์รายงานตัวเลขในไตรมาส 2 ปี 52 ขยายตัวที่ร้อยละ 1.5 ต่อปี ขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 0.6 ต่อปี (ตัวเลขปรับปรุง) โดยหากพิจารณาการขยายตัวรายไตรมาสที่ปรับฤดูกาลแล้ว เศรษฐกิจฟิลิปปินส์จะขยายตัวที่ร้อยละ 2.4 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ผลของการบริโภคภาคเอกชนและการใช้จ่ายภาครัฐบาล อย่างไรก็ตาม การลงทุนและการส่งออกยังคงหดตัวที่ร้อยละ -9.8 และ-16.0 ต่อปี ตามลำดับ
  • สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ที่หดตัวน้อยกว่าไตรมาสก่อนนั้น เป็นผลมาจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการ ที่เน้นการกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนก่อสร้างสาธารณูปโภค โดยจะเห็นได้จากตัวเลขการขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชนและการใช้จ่ายภาครัฐบาล ที่ขยายตัวที่ร้อยละ 2.2 และ 9.1 ต่อปี อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าและบริการยังคงหดตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ -16.0 ต่อปี ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่กำลังอยู่ในระยะฟื้นตัว นอกจากนี้ หากเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนและปรับฤดูกาลแล้ว เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ขยายตัวที่ร้อยละ 2.4 ทำให้ฟิลิปปินส์ไม่ตกอยู่ในภาวะถดถอยทางเทคนิค ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ในปี 52 จะขยายตัวที่ร้อยละ 1.1 ต่อปี (ประมาณการ ณ เดือนมิ.ย. 52)

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ