สรุปความเห็นนักวิเคราะห์ต่อทิศทางตลาดเงินตลาดทุนสัปดาห์นี้
คาดว่าค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้จะทรงตัว โดยนักวิเคราะห์ 3 รายมองว่าเงินบาทในช่วงสัปดาห์นี้จะทรงตัวโดยที่จะมีการซื้อขายในกรอบแคบๆ โดยอยู่ที่ระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์ เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่ ส่วนนักวิเคราะห์อีก 3 รายคาดว่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงเล็กน้อย เนื่องจากมีแรงกดดันจากปัจจัยทางการเมือง ส่วนนักวิเคราะห์อีก 3 รายคาดว่าเงินบาทน่าจะแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากการมีแรงขายเงินดอลลาร์สหรัฐจากผู้ส่งออกต่อเนื่อง และน่าจะแข็งค่าขึ้นตามสกุลเงินภูมิภาค
คาดว่า Bond Yield อายุ 2 ปี จะเพิ่มขึ้น โดยมีนักวิเคราะห์ 7 รายมองว่า Yield มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยสัปดาห์นี้ตลาดจับตาตัวเลขอัตรา เงินเฟ้อที่จะประกาศในวันอังคาร ซึ่งคาดว่าอัตราเงินเฟ้อในเดือน ส.ค. จะหดตัวในอัตราที่ลดลง ซึ่งหนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร ประกอบกับความต้องการ ลงทุนในตลาดหุ้นที่ยังปรับตัวในทิศทางขาขึ้น จึงเป็นอีกปัจจัยที่หนุนให้ผลตอบแทนปรับตัวในทิศทางขาขึ้น ส่วนนักวิเคราะห์อีก 2 ราย คาดว่าอัตราผลตอบแทนมีแนวโน้มทรงตัวหรือปรับตัวลดลงเล็กน้อย
สำหรับ Bond Yield อายุ 10 ปี นักวิเคราะห์ 5 รายมองว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจมีแนวโน้มออกมาดีขึ้น ส่วนนักวิเคราะห์ 3 รายคาดว่าจะปรับตัวลงเล็กน้อยจากช่วงปลายสัปดาห์ โดยอัตราผลตอบแทนยังปรับตัวในกรอบ แคบตลอดทั้งสัปดาห์ เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาในตลาด ประกอบกับสัปดาห์นี้ไม่มีตารางการประมูลพันธบัตรตัวยาวทำให้อัตราผลตอบแทนค่อนข้างทรงตัว ส่วนนักวิเคราะห์ 1 ราย คาดว่าไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงเนื่องจากภาวะตลาดที่เงียบ อีกทั้งปริมาณหมุนเวียนในตลาดน้อย ทำให้พันธบัตรอายุยาว ไม่น่าจะมีการซื้อขายกันมากนัก
คาดว่า SET มีแนวโน้มปรับตัวลง โดยนักวิเคราะห์ 6 รายคาดว่า SET จะปรับตัวลดลง เนื่องจากตัวเลขสินเชื่อขยายตัวในประเทศจีนสำหรับเดือน ส.ค. ชะลอตัวลง อย่างมากต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองจากมาตรการเข้มงวดสินเชื่อ ประกอบกับคาดว่า Non-farm payroll ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมาล่าสุดปรับตัวลดลงซึ่งสะท้อน ด้านการบริโภคที่อ่อนแอของสหรัฐฯ ดังนั้นการส่งออกของไทยจะยังไม่ฟื้นตัวมากนักและการเมืองในประเทศกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง
นักวิเคราะห์คาดว่าในสัปดาห์นี้นักลงทุนต่างชาติจะซื้อสุทธิในSET เพียงเล็กน้อยเนื่องจากปัจจัยทางการเมืองจากกระแสข่าวการยุบสภาของนายกฯ ส่วนนักลงทุนสถาบันจะขายสุทธิใน SET เนื่องจากระมัดระวังการปรับตัวลง อีกทั้งราคาหุ้นเริ่มใกล้เคียงกับราคาพื้นฐานที่เหมาะสมแล้ว
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th