สรุปความเห็นนักวิเคราะห์ต่อทิศทางตลาดเงินตลาดทุนสัปดาห์นี้
คาดว่าค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้จะแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย โดยนักวิเคราะห์ 6 รายมองว่าเงินบาทในช่วงสัปดาห์นี้มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อน เนื่องจากตัวเลข Non Farm Payroll ของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ทำให้นักลงทุนเพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและขายเงิน USD เพื่อลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า กดดันให้ค่าเงิน USD อ่อนค่า กอปรกับส่งผลให้เงินทุนอาจไหลเข้ามาในเอเชีย ส่วนนักวิเคราะห์อีก 2 ราย คาดว่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลง ท่ามกลางความต้องการเงินดอลลาร์สหรัฐที่คาดว่าจะยังเพิ่มสูงขึ้นในภาวะที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนค่อนข้างเปราะบางโดยคาดว่าในช่วงที่ผ่านมาตลาดเริ่มอิ่มตัวกับข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาในเชิงบวก ทำให้ตลาดเริ่มเปลี่ยนทิศทางและมีความอ่อนไหวต่อข่าวในเชิงลบที่เข้ามากระทบตลาดมากขึ้น
คาดว่า Bond Yield อายุ 2 ปี จะเพิ่มขึ้น โดยมีนักวิเคราะห์ 6 รายมองว่า Yield มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยในช่วงต้นสัปดาห์จะสูงขึ้นเนื่องจากมีการประมูลพันธบัตรช่วงอายุ 2.28 ปี มูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท แต่ปลายสัปดาห์มีแนวโน้มลดลงเนื่องจากคาดว่าตลาดยังมีความต้องการซื้อพันธบัตรช่วงสั้น ส่วนนักวิเคราะห์อีก 2 ราย คาดว่า Yield มีแนวโน้มปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดยังคงมีความต้องการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นอยู่อย่างมาก
สำหรับ Bond Yield อายุ 10 ปี นักวิเคราะห์ 6 ราย คาดว่าอัตราผลตอบแทนระยะยาวจะปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากช่วงปลายสัปดาห์ โดยเป็นการปรับตัวตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะปรับตัวขึ้นในช่วงสัปดาห์นี้ เนื่องจากมีพันธบัตรออกสู่ตลาดมาก อย่างไรก็ดีอัตราผลตอบแทนอาจปรับตัวในกรอบแคบๆ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาชี้นำ ส่วนนักวิเคราะห์ 1 รายคาดว่าจะปรับตัวลงเล็กน้อย จากการการที่กระทรวงการคลังเปลี่ยนกรอบอัตราเงินเฟ้อจาก 0-3.5% เป็น 0.50%-3.0% ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่านโยบายการเงินจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเพราะยังต้องให้ความสำคัญกับการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องส่วนนักวิเคราะห์ 1 ราย คาดว่าไม่น่าจะเปลี่ยนแปลง
คาดว่า SET มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น โดยนักวิเคราะห์ 5 รายคาดว่า SET จะปรับตัวขึ้น จากแนวโน้มตัวเลขเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จ เป็นแรงหนุนให้นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ส่วนนักวิเคราะห์ 4 รายมองว่า SET จะปรับตัวลงโดยแม้บรรยากาศรวมยังดูสดใส แต่เชื่อว่าดัชนีจะขยับไปไหนไม่ได้ไกล เนื่องจากยังต้องระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นที่จะมีตามมา การเปลี่ยนกลุ่มเล่นหุ้นที่อิงหุ้นขนาดกลาง-เล็กมากขึ้นทำให้คาดว่าใกล้จบรอบการปรับขึ้น อีกทั้งอาจเผชิญกับการปรับฐานได้ตลอดเวลา
นักวิเคราะห์คาดว่าในสัปดาห์นี้นักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันจะซื้อสุทธิใน SET เนื่องจากคาดว่าตลาดหุ้นมีแนวโน้มดีขึ้น
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th