Macro Morning Focus ประจำวันที่ 9 ก.ย. 2552
1. รัฐบาลดึงเอสเอ็มอีแบงก์อุดหนุนสินเชื่อธุรกิจอัญมณี
2. ธอส. มั่นใจปล่อยสินเชื่อซื้อบ้านเกินเป้าหมายที่กำหนดไว้ 1 แสนล้านบาท
3. คณะกรรมาธิการของจีนเผย อัตราการเติบโตของสินเชื่อครึ่งหลังปี 2552 จะมีเสถียรภาพมากขึ้น
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ลงนามโครงการสนับสนุนสินเชื่อสำหรับธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับระหว่างธนาคารพัฒนาวิสาหกิขขนาดกลางและขนาดย่อม (ธพว.) กับกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอัญมณีและเครื่องประดับ และกล่าวว่าจะเป็นการช่วยด้านสินเชื่อให้ผู้ประกอบการอัญมณีได้รับสภาพคล่องเพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดย ธพว. จะให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติและประเมินราคามาแล้วจากสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) และ 3 สมาคมหลักที่เกี่ยวข้อง
- สศค. วิเคราะห์ว่า การผลิตเครื่องเพชรพลอยและรูปพรรณอัญมณีเริ่มปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2552 สะท้อนจากอัตราการเติบโตเทียบกับปีก่อนหน้าของดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมรายสาขาในด้านดังกล่าวที่ขยายตัวร้อยละ 12.9 ร้อยละ 38.7 และร้อยละ 49.4 ในเดือนพฤษภาคม มิถุนายน และกรกฎาคม ตามลำดับ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ -22.3 ในเดือนเมษายน 2552 ดังนั้น โครงการดังกล่าวจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการสนับสนุนการผลิตและการจ้างงานในธุรกิจอัญมณี
- กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์กล่าวว่า การที่โครงการปล่อยสินเชื่อ Fast Track วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท ได้รับความสนใจจากผู้ที่ต้องการซื้อบ้านเป็นจำนวนมาก สะท้อนจากยอดสินเชื่อที่ถูกปล่อยไปแล้วประมาณ 2,000 ล้านบาท จะช่วยทำให้ยอดปล่อยสินเชื่อรวมของธนาคารจะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ที่ระดับหนึ่งแสนล้านในขณะเดียวกัน ธอส. ยังไม่มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ จนถึงสิ้นปีนี้ แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะออกพันธบัตรออมทรัพย์ โดยมียอดจองสูงถึง 1.25 แสนล้านบาท ทำให้มีการดูดทรัพย์สภาพคล่องออกจากระบบมาก แต่การที่ ธอส. ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากทำให้มีลูกค้ามาฝากเงินกับ ธอส. สูงถึง 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งทำให้สภาพคล่องยังคงมีเพียงพอ
- สศค. วิเคราะห์ว่า ดัชนีอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องในช่วงครึ่งแรกของปี 2552 การปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงินเฉพาะกิจขยายตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากยอดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงินเฉพาะกิจในไตรมาสที่ 1 และ 2 ขยายตัวที่ร้อยละ 3.7 และ 4.3 ต่อปี ตามลำดับ ในขณะที่สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารพาณิชย์ขยายตัวในไตรมาสที่ 1 ร้อยละ 13.6 ต่อปี ชะลอตัวลงจากร้อยละ 10.7 ต่อปีจากไตรมาสก่อนหน้า
- คณะกรรมาธิการธนาคารของจีนกล่าวว่า อัตราการเติบโตของสินเชื่อปล่อยกู้ใหม่ในครึ่งหลังของปี 2552 จะมีเสถียรภาพมากขึ้น สะท้อนจากการปล่อยสินเชื่อใหม่ในเดือนกรกฎาคมที่อยู่ระดับ 355.9 แสนล้านหยวน น้อยกว่าหนึ่งในสี่ของระดับการปล่อยสินเชื่อใหม่ในเดือนมิถุนายน และคาดว่าสินเชื่อใหม่ในเดือนสิงหาคมจะอยู่ที่ประมาณ 200 แสนล้านหยวน โดยข้อบังคับของการดำรงเงินกองทุนที่เข้มงวดขึ้น ทำให้สถาบันการเงินต้องลดการถือครองพันธบัตรของภาคเอกชนที่มีความเสี่ยงสูง (subordinated bond) ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวจะเพิ่มคุณภาพของเงินกองทุนและพัฒนาการบริหารจัดการความเสี่ยงของสถาบันการเงินหลังจากที่ BIS Ratio ของภาคธนาคารจีนลดลงในครึ่งแรกของปี 2552
- สศค. วิเคราะห์ว่า มาตรการดังกล่าวจะเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดหนี้เสีย (NPLs) ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาคการเงินการธนาคารและเศรษฐกิจโดยรวม แต่อาจทำให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่มีการเข้าถึงเงินทุนที่ยากกว่า มีปัญหาเรื่องของสภาพคล่องทางธุรกิจได้ ทั้งนี้ทางการจีนอาจต้องเข้ามาดูแลการปล่อยสินเชื่อให้มีความทั่วถึงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th