Macro Morning Focus ประจำวันที่ 10 ก.ย. 2552
Summary:
1. กรมทางหลวงเซ็นจ้างผู้รับเหมา 400 โครงการ 6 พันล้าน
2. World Bank ขยับไทยเป็นประเทศสะดวกในประกอบธุรกิจอันดับ12 ของโลก
3. ยอดขายยานยนต์ของจีนเดือนส.ค.52 ขยายตัวพุ่งสูงถึงร้อยละ 81.7 ต่อปี
Highlight:
1. กรมทางหลวงเซ็นจ้างผู้รับเหมา 400 โครงการ 6 พันล้าน
- อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามงานจ้างบำรุงทางหลวงภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ว่าได้รับการจัดสรรงบประมาณในปี 52 จำนวน 12,500 ล้านบาท แบ่งเป็นงานบำรุงรักษาทางหลวง 10,500 ล้านบาท งานบำรุงถนนผ่านชุมชน 1,500 ล้านบาท และงานอำนวยความสะดวก 500 ล้านบาท ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้ลงนามสัญญางานจ้างบำรุงทางหลวงที่มีความพร้อม ครั้งที่ 1 จำนวน 462 โครงการ วงเงินประมาณ 6,120 ล้านบาท ที่เหลือจำนวน 335 โครงการ วงเงินประมาณ 3,932 ล้านบาท จะทยอยลงนามสัญญาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ก.ย.นี้ และจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 4-6 เดือน
- สศค. วิเคราะห์ว่า เม็ดเงินจากโครงการบำรุงรักษาทางหลวงของกรมทางหลวงจะนับเป็นเม็ดเงินก้อนแรกจากโครงการไทยเข้มแข็งที่ไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจริง ซึ่งคาดว่าพร้อมเบิกจ่ายได้ทันทีภายในเดือน ต.ค. นอกจากนั้นโครงการไทยเข้มแข็งที่ได้รับการจัดสรรในครั้งแรกนี้ยังมีมูลค่ารวมกว่า 199,960 ล้านบาท ประกอบไปด้วยโครงการต่างๆ 2,352 โครงการ กระจายอยู่ในภูมิภาคต่างอย่างทั่วถึง ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานทั้งด้านการผลิต การก่อสร้าง และการบริการในหลายสาขา ทั้งนี้ สศค. คาดว่าจะมีผลให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น 500,000 อัตรา/ปี หรือ 1.5 ล้านคนใน 3ปี
2. World Bank ขยับไทยเป็นประเทศสะดวกในประกอบธุรกิจอันดับ 12 ของโลก
- ธนาคารโลก เปิดเผยรายงานผลการวิจัยประเทศที่มีความสะดวกในการเข้าไปประกอบธุรกิจประจำปี 2553 พบว่าไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความสะดวกในการเข้าไปประกอบธุรกิจอันดับ 12 จาก 183 ประเทศทั่วโลก ขยับสูงขึ้นจากปี 2552 ที่อยู่ในอันดับ 13 จาก 181 ประเทศ เนื่องจากมีการพัฒนาคุณภาพการให้บริการและปรับปรุงกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคการให้บริการดีขึ้น ที่สำคัญคือสามารถจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทภายในเวลา 1 วันจากเดิมใช้เวลา 9 วัน การลดค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนการโอนที่ดินและอาคารพร้อมที่ดินเหลือร้อยละ 0.01 จากร้อยละ 2 และการลดการจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะเหลือร้อยละ 0.11 จากร้อยละ 3.3 ซึ่งช่วยให้ค่าใช้จ่ายทำธุรกิจลดลง
- สศค. วิเคราะห์ว่า จากการจัดอันดับประเทศสะดวกในประกอบธุรกิจของ World Bank ส่งผลให้ภาพพจน์ของไทยมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในสายตานักลงทุนต่างชาติ และจะส่งผลให้ทิศทางการลงทุนไทยเริ่มปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 3 และ 4 สอดคล้องกับมาตรการไทยเข้มแข็งของภาครัฐที่ได้สนับสนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานรวมถึงมาตรการช่วยเหลือด้านสินเชื่อแก่ภาคธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลดีในด้านสภาพคล่องและเพิ่มความสะดวกต่อการประกอบธุรกิจในไทยมากยิ่งขึ้น
3. ยอดขายยานยนต์ของจีนเดือน ส.ค.52 ขยายตัวพุ่งสูงถึงร้อยละ 81.7 ต่อปี
- สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ของจีนเผยว่า ยอดขายยานยนต์ของจีนเดือน ส.ค.52 ขยายตัวพุ่งสูงถึงร้อยละ 81.7 ต่อปี หรือเท่ากับจำนวน 1.14 ล้านคัน โดยยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขยายตัวถึงร้อยละ 90.2 ต่อปี หรือที่ 858,300 คัน ทำให้มีการคาดการณ์ว่าภายในปีนี้ จีนจะกลายเป็นตลาดรถยนต์ที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดในโลก แซงหน้าสหรัฐฯ ที่ยังตกอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิค
- สศค. วิเคราะห์ว่า สาเหตุที่ยอดขายยานยนต์ของจีนเดือน ส.ค.52 ขยายตัวพุ่งสูงได้เป็นประวัติการณ์นี้ เป็นผลหลักมาจากนโยบายกระตุ้นการบริโภคของทางการจีน โดยเฉพาะการลดภาษีรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดเล็กลงเหลือเพียงร้อยละ 5.0 อีกทั้งทางผู้ประกอบการยานยนต์เองก็มีการลดราคายานยนต์ให้ทำยอดขายให้ได้ตามเป้า ทำให้มีการผลิตสินค้ายานยนต์จำนวนมาก โดยยอดการใช้กำลังการผลิตสูงกว่าร้อยละ 70 อย่างไรก็ตาม หากนโยบายนี้ของทางการจีนสิ้นสุดโครงการ อาจจะทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์จีนประสบปัญหาสินค้าล้นตลาดได้
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th