Macro Morning Focus ประจำวันที่ 11 ก.ย. 2552
Summary:
1. ดร. โอฬาร ลุ้นเศรษฐกิจฟื้นรูปตัวยู (U) หวั่นนโยบายการเงินผิดพลาด
2. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ส.ค. 52 อยู่ที่ระดับ 67.4
3. ตัวเลขจ้างงานออสเตรเลียลดลงมากกว่าที่คาด ในขณะที่อัตราว่างงานยังคงที่
Highlight:
1. ดร. โอฬาร ลุ้นเศรษฐกิจฟื้นรูปตัวยู (U) หวั่นนโยบายการเงินผิดพลาด
- ดร. โอฬาร ไชยประวัติ อดีตรองนายยกรัฐมนตรี กล่าวในการประชุมวิชาการของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) OIE FORUM 2009 “เหลียวหลังแลหน้า เชื่อมั่นอนาคตอุตสาหกรรมไทย” โดยกล่าวว่า เศรษฐกิจของไทยผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยการฟื้นตัวจะเป็นรูปตัวยู (U) แต่ยังมีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นรูปตัวแอล (L) ได้ หากนโยบายการเงินผิดพลาด และการดำเนินการให้เกิดผลของนโยบายต้องชัดเจนโปร่งใส
- สศค. วิเคราะห์ว่า วิกฤติเศรษฐกิจโลกครั้งนี้กระทบต่อเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าและการท่องเที่ยว อย่างไรก็ดี ขณะนี้เศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว หากต้องการให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวกลับไปสู่ระดับก่อนวิกฤติ ภาครัฐจำเป็นต้องดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อชดเชยรายได้ที่คาดว่าจะลดลงผ่านทางนโยบายการคลังแบบขยายตัว นโยบายสินเชื่อแบบขยายตัว และนโยบายค่าเงินบาทอ่อน โดยหากลดค่าเงินบาทจาก 34 บาทเป็น 37 จะเป็นการเพิ่มอำนาจซื้อของประชาชนและผู้ประกอบการผ่านรายได้ของการส่งออกในรูปของเงินบาทที่จะเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบเชิงบวกไปสู่รายได้ของผู้ประกอบการอื่นที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) ของการผลิตเพื่อส่งออกให้เพิ่มขึ้น และส่งผลให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น
2. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ส.ค. 52 อยู่ที่ระดับ 67.4
- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือน ส.ค.52 อยู่ที่ 67.4 เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ค.52 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 66.3 โดยได้รับปัจจัยบวกมาจากการอนุมัติแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 สภาพัฒน์ ประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ของ 52 นี้หดตัวลดลงจากไตรมาสที่ 1 ปี 52 และราคาน้ำมันขายปลีกดีเซลปรับตัวลดลง
- สศค. วิเคราะห์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวสูงขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ คาดว่าในระยะต่อไปดัชนีความเชื่อผู้บริโภคจะปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยบวกจาก 1.) ทิศทางเศรษฐกิจโลกมีการฟื้นตัวมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออกไทยและรายได้ของประชาชน 2.) การประสานนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล คือนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 (SP2) และนโยบายขยายสินเชื่อ ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วขึ้น
3. ตัวเลขจ้างงานออสเตรเลียลดลงมากกว่าที่คาด ในขณะที่อัตราว่างงานยังคงที่
- สำนักสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (Australian Bureau of Statistics) เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานเดือน ส.ค. 52 อยู่ที่ 10.77 ล้านคน และการว่างงานอยู่ที่ 6.69 แสนคน ขณะที่หากปรับผลทางฤดูกาลแล้ว ตัวเลขการจ้างงานจะอยู่ที่ 10.76 ล้านคน ซึ่งน้อยกว่าเดือนก่อนหน้าถึง 27,100 คน รุนแรงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 12,500 คน ส่วนการว่างงานจะอยู่ที่ 6.64 แสนคน ทำให้อัตราการว่างงานยังคงที่จากเดือนก.ค.52 อยู่ที่ร้อยละ 5.8 ของกำลังแรงงานรวม
- สศค. วิเคราะห์ว่า นับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจมา ภาคการจ้างงานของออสเตรเลียค่อนข้างมีเสถียรภาพเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ โดยอัตราการว่างงานคงที่อยู่ที่ร้อยละ 5.8 ต่อกำลังแรงงานรวมมาเป็นเวลาถึง 3 เดือนติดต่อกัน ถึงแม้จะเป็นระดับที่สูงสุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 46 ก็ตาม อย่างไรก็ดี ตัวเลขการจ้างงานที่ลดลงมาก หลังจากที่เพิ่มขึ้นสูงถึง 33,700 คนในเดือนก่อนหน้า บ่งชี้ว่าตัวเลขอัตราการว่างงานที่คงที่ น่าจะมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากกำลังแรงงานรวมที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้ทางการออสเตรเลียต้องออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือทั้งแรงงานที่ถูกเลิกจ้างและแรงงานใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่ตลาดในอนาคตอันใกล้นี้
ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office
Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th