กระทรวงการคลังซ้อมความเข้าใจลูกจ้างประจำที่เลือกรับบำนาญรายเดือนให้ชะลอการยื่นแบบขอรับเงินไว้ก่อน ผู้ที่ยื่นแบบไปแล้วหากเปลี่ยนใจให้มีหนังสือแจ้งหน่วยงานและส่งไปที่กรมบัญชีกลางภายใน 9 ตุลาคม 2552
นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้วางแนวทางปฏิบัติเพื่อรองรับการสั่งจ่ายเงินบำเหน็จรายเดือนให้ลูกจ้างประจำไว้แล้ว เมื่อระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้างมีผลบังคับใช้เมื่อใด กรมบัญชีกลางสามารถสั่งจ่ายเงินบำเหน็จรายเดือนตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552 ได้ทันที สำหรับลูกจ้างประจำรายใดที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่า จะขอรับเป็นเงินก้อนครั้งเดียวตอนออกจากราชการ หรือขอรับเป็นเงินบำเหน็จรายเดือนไปเรื่อยๆ ระหว่างนี้ยังมีเวลาให้ตัดสินใจ โดยชะลอการยื่นแบบของรับเงินบำเหน็จปกติและหรืเงินบำเหน็จพิเศษลูกจ้าง (แบบ 5313) ไว้ก่อน สำหรับลูกจ้างประจำที่ได้ยื่นแบบขอรับเงินไปแล้ว และอยากเปลี่ยนใจก็สามารถกระทำได้โดยให้รีบกรอกแบบฟอร์ม (แบบ สจป.1) แสดงเจตนาขอเปลี่ยนแปลงความประสงค์เพื่อขอรับเป็นเงินบำเหน็จรายเดือนหรือ เงินบำเหน็จพิเศษรายเดือนที่หน่วยงานต้นสังกัด และส่งให้กรมบัญชีกลางหรือสำนักงานคลังเขต ภายในวันที่ 9 ตุลาคม 2552 นี้ เพื่อกรมบัญชีกลางจะได้ระงับการสั่งจ่ายบำเหน็จไว้ก่อน และเมื่อระเบียบประกาศใช้แล้ว จะดำเนินการจ่ายเงินบำเหน็จรายเดือนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิโดยตรงต่อไป
นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การแก้ไขระเบียบดังกล่าวก็เพื่อต้องการให้ลูกจ้างประจำที่ปฏิบัติงานให้ราชการมานานจนถึงอายุ 60 ปี ไม่ได้ประกอบอาชีพอื่นมีรายได้เป็นรายเดือนมาโดยตลอด เมื่อออกจากราชการในขณะที่อายุมากแล้วก็ควรที่จะมีเงินรายได้เพื่อยังชีพไปตลอด หากรับเงินบำเหน็จไปครั้งเดียวและไม่วางแผนการใช้จ่ายอย่างดี จะทำให้ลำบากในภายหลัง โดยเฉพาะในสภาวะเศรษฐกิจที่อัตราค่าครองชีพสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อลูกจ้างประจำเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี ในระยะยาวต่อไป
สำนักกฎหมาย กรมบัญชีกลาง
โทร.02-273-9607
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 127/2552 21 กันยายน 52--