ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดประจำเดือนสิงหาคม 2552 และในช่วง 11 เดือนแรกปีงบประมาณ 2552 (ตุลาคม 2551 — สิงหาคม 2552)

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 22, 2009 08:36 —กระทรวงการคลัง

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเศรษฐกิจมหภาค ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังได้แถลงฐานะการคลังของ รัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด ในเดือนสิงหาคม 2552 รัฐบาลขาดดุลเงินงบประมาณจำนวน 40,387 ล้านบาท ส่งผลให้ช่วง 11 เดือนแรก ของปีงบประมาณ 2552 รัฐบาลขาดดุลเงินงบประมาณจำนวนรวมทั้งสิ้น 490,629 ล้านบาท และเมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่เกินดุล 95,608 ล้านบาท (รายได้จากการออกพันธบัตรออมทรัพย์เพื่อสมทบเงินคงคลัง 50,000 บาท และรายได้จากการชดใช้เงินคงคลัง 46,680 ล้านบาท) ทำให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวมทั้งสิ้น 395,021 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4.5 ของ GDP สะท้อนถึงบทบาทของภาครัฐในการสนับสนุน การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงที่ภาคเอกชนชะลอการใช้จ่าย ทั้งนี้ รัฐบาลได้ชดเชยการขาดดุลเงินสดด้วยการออกพันธบัตร ตั๋วสัญญาใช้เงิน และ ตั๋วเงินคลัง ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2552 เท่ากับ 271,070 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่มีความมั่นคงต่อฐานะการคลังของรัฐบาล โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. ฐานะการคลังเดือนสิงหาคม 2552

1.1 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลัง 101,774 ล้านบาท ต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 5,884 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 5.5) โดย เป็นผลจากการจัดเก็บภาษีได้ลดลงตามการหดตัวของเศรษฐกิจ สำหรับภาษีที่จัดเก็บได้ลดลงมากเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีเบียร์ อากรขาเข้า และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา นอกจากนั้นการจัดเก็บรายได้ของส่วนราชการอื่นก็ลดลงมากเช่นเดียวกัน

1.2 รัฐบาลมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น 142,162 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 17,534 ล้านบาท (คิดเป็น ร้อยละ 14.1) ประกอบด้วยรายจ่ายประจำ 119,691 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.0 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีที่แล้ว รายจ่ายลงทุน 17,224 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 36.7 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีที่แล้ว และมีการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีก่อนอีกจำนวน 5,246 ล้านบาท (ตารางที่ 1)

การเบิกจ่ายเงินงบประมาณที่สำคัญในเดือนนี้ ได้แก่ รายจ่ายเงินอุดหนุนให้กระทรวงศึกษาธิการจำนวน 5,274 ล้านบาท และรายจ่าย ให้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจำนวน 3,903 ล้านบาท นอกจากนั้นในเดือนนี้ได้มีการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อชดใช้เงินคงคลังอีกจำนวน 19,139 ล้านบาท

ตารางที่ 1 การเบิกจ่ายเงินงบประมาณเดือนสิงหาคม 2552

หน่วย: ล้านบาท

                                  เดือนสิงหาคม                 เปรียบเทียบ
                                     2552         2551         จำนวน       ร้อยละ
        1. รายจ่ายปีปัจจุบัน            136,915       120,423      16,492        13.7
        1.1 รายจ่ายประจำ            119,691       107,821      11,870         11
        1.2 รายจ่ายลงทุน              17,224       12,602        4,622        36.7
    2. รายจ่ายจากงบประมาณปีก่อน         5,247         4,205        1,042        24.8
      3. รายจ่ายรวม (1+2)           142,162       124,628      17,534        14.1

ที่มา: กรมบัญชีกลาง

1.3 จากรายได้นำส่งคลังและการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาลข้างต้น ส่งผลให้ดุลเงินงบประมาณในเดือนสิงหาคม 2552 ขาดดุล 40,388 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่เกินดุล 23,471 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการรับชดใช้เงินคงคลังจำนวน 19,139 ล้านบาท และรายได้จากส่วนเกินพันธบัตรอีกจำนวน 2,105 ล้านบาท ทำให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดจำนวน 16,917 ล้านบาท ทั้งนี้ รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อการชดเชยการขาดดุลโดยออกพันธบัตรจำนวน 9,000 ล้านบาท ส่งผลให้ดุลเงินสด (หลังกู้ชดเชยการขาดดุล) ขาดดุล จำนวน 7,917 ล้านบาท (ตารางที่ 2)

ตารางที่ 2 ฐานะการคลังตามระบบกระแสเงินสดเดือนสิงหาคม 2552

หน่วย: ล้านบาท

                                   สิงหาคม                 เปรียบเทียบ
                                    2552       2551         จำนวน       ร้อยละ
            1. รายได้               101,774    107,658      -5,884        -5.5
            2. รายจ่าย              142,162    124,628      17,534        14.1
        3. ดุลเงินงบประมาณ           -40,388    -16,970      -23,418       138
       4. ดุลเงินนอกงบประมาณ         23,471     22,918         553         2.4
      5. ดุลเงินสดก่อนกู้ (3+4)         -16,917     5,948       -22,865      -384.4
     6. เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล        9,000      6,636        2,364        35.6
      7. ดุลเงินสดหลังกู้ (5+6)         -7,917     12,584       -20,501      -162.9

ที่มา: กรมบัญชีกลาง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

2. ฐานะการคลังในช่วง 11 เดือนแรกปีงบประมาณ 2552 (ตุลาคม 2551 — สิงหาคม 2552)

2.1 รายได้นำส่งคลัง รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 1,229,618 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 114,035 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 8.5) เนื่องจากการจัดเก็บภาษีของ 3 กรมหลักที่ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษีมูลค่าเพิ่ม อากรขาเข้า ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ และภาษีเงินได้นิติบุคคล นอกจากนั้นการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจก็ลดลงด้วยเช่นเดียวกัน

2.2 รายจ่ายรัฐบาล การเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลมีจำนวนทั้งสิ้น 1,720,247 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 236,698 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 16.0 ประกอบด้วยรายจ่ายปีปัจจุบัน 1,603,972 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 15.5 คิดเป็นอัตราการเบิกจ่ายร้อยละ 82.2 ของวงเงินงบประมาณ (1,951,700 ล้านบาท) และรายจ่ายปีก่อน 116,275 ล้านบาท สูงกว่าปีที่แล้วร้อยละ 23.0 (ตารางที่ 3)

รายจ่ายปีปัจจุบันจำนวน 1,603,972 ล้านบาท แบ่งออกเป็นรายจ่ายประจำ 1,348,339 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ร้อยละ 18.3 และรายจ่ายลงทุน 255,633 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 2.6

ตารางที่ 3 การเบิกจ่ายงบประมาณในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2552

หน่วย: ล้านบาท

                                 11 เดือนแรก                   เปรียบเทียบ
                                    2552          2551          จำนวน       ร้อยละ
        1. รายจ่ายปีปัจจุบัน           1,603,972     1,388,978      214,994       15.5
        1.1 รายจ่ายประจำ           1,348,339     1,139,742      208,597       18.3
        1.2 รายจ่ายลงทุน             255,633       249,236        6,397        2.6
   2. รายจ่ายจากงบประมาณปีก่อน        116,275       94,571        21,704        22.9
      3. รายจ่ายรวม (1+2)          1,720,247     1,483,549      236,698        16

ที่มา: กรมบัญชีกลาง

2.3 ดุลการคลังรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสด ขาดดุล 395,021 ล้านบาท โดยเป็นการขาดดุลเงินงบประมาณ 490,629 ล้านบาท ส่วนดุลเงินนอกงบประมาณเกินดุลจำนวน 95,608 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการออกพันธบัตรตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงิน ฯ จำนวน 50,000 ล้านบาทเพื่อสมทบเงินคงคลัง และได้รับรายได้จากการชดใช้เงินคงคลังจำนวน 46,680 ล้านบาท ทั้งนี้ รัฐบาลได้ บริหารเงินสดให้สอดคล้องกับความต้องการใช้เงิน รวมทั้งสร้างความมั่นคงของฐานะการคลัง จึงได้ชดเชยการขาดดุลดังกล่าวด้วยการออกพันธบัตร ตั๋วสัญญาใช้เงิน และตั๋วเงินคลังรวม 437,030 ล้านบาท ส่งผลให้ดุลเงินสด (หลังการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล) เกินดุล 42,009 ล้านบาท และ เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2552 มีจำนวน 271,070 ล้านบาท (ตารางที่ 4)

ตารางที่ 4 ฐานะการคลังตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 11 เดือนแรกปีงบประมาณ 2552

(ตุลาคม 2551 — สิงหาคม 2552)

หน่วย: ล้านบาท

                                   11 เดือนแรก                   เปรียบเทียบ
                                      2552          2551          จำนวน        ร้อยละ
            1. รายได้                1,229,618     1,343,653     -114,035       -8.5
            2. รายจ่าย               1,720,247     1,483,549      236,698        16
        3. ดุลเงินงบประมาณ            -490,629      -139,896      -350,733       250.7
       4. ดุลเงินนอกงบประมาณ           95,608        -27,462       123,070      -448.1
      5. ดุลเงินสดก่อนกู้ (3+4)          -395,021      -167,358      -227,663        136
     6. เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล         437,030       164,336       272,694       165.9
      7. ดุลเงินสดหลังกู้ (5+6)           42,009        -3,022        45,031       -1490.1

ที่มา: กรมบัญชีกลาง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

สำนักนโยบายการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

โทร 0-2273-9020 ต่อ 3558 และ 3555

--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 130/2552 21 กันยายน 52--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ