FPO WEEKLY CONSENSUS (21 กันยายน 2552)

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 23, 2009 10:54 —กระทรวงการคลัง

สรุปความเห็นนักวิเคราะห์ต่อทิศทางตลาดเงินตลาดทุนสัปดาห์นี้

คาดว่าค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้จะแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย โดยนักวิเคราะห์ 7 รายมองว่าเงินบาทในช่วงสัปดาห์นี้ยังคงปรับตัวในกรอบที่แข็งค่าขึ้น เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ที่ออกมาดี ทำให้ตลาดเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจโลกกำลังจะฟื้นตัวนั้น ทำให้นักลงทุนขายเงิน USD เพื่อลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า กดดันให้ค่าเงิน USD อ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบ 1 ปี เมื่อเทียบกับเงินหลายสกุล ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัจจัยทางการเมืองก็อาจส่งผลลบต่อค่าเงินบาทได้ ส่วนนักวิเคราะห์ 1 ราย มองว่าค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงเล็กน้อยในช่วงปลายอาทิตย์นี้ เนื่องจากการปิดงบดุลปลายปีของญี่ปุ่น

คาดว่า Bond Yield อายุ 2 ปี จะปรับตัวขึ้น โดยมีนักวิเคราะห์ 7 รายมองว่า Yield มีโอกาสปรับตัวในทิศทางขาขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน อันเป็นผลจากความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่ยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่มีสัญญาณการฟื้นตัวขึ้นเป็นลำดับ ปริมาณการซื้อขายในตลาดพันธบัตรเบาบาง มีความอ่อนไหวสูงมาก การขายพันธบัตรออกมาเพียงไม่มาก ซึ่งหนุนให้อัตราผลตอบแทนมีการปรับตัวสูงขึ้นได้ กอปรกับจะมีการประมูลพันธบัตร ธปท.รุ่นอายุ 3 ปีในวันอังคารนี้ซึ่งจะทำให้อัตราผลตอบแทนในช่วงใกล้เคียงกันได้รับผลกระทบไปด้วย ส่วนนักวิเคราะห์อีก 1 ราย คาดว่า Yield มีแนวโน้มปรับตัวลดลง

สำหรับ Bond Yield อายุ 10 ปี จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยนักวิเคราะห์ 7 ราย คาดว่า Yield จะปรับตัว จากที่เช้านี้ ธปท.เข้าซื้อพันธบัตร คาดว่าจะกดดันให้อัตราผลตอบแทนลดลง แต่นักลงทุนรอการประมูลพันธบัตรอายุ 15 ปี 8 พันล้านในวันพุธ คาดว่าจะดันให้อัตราผลตอบแทนในตลาดรองพุ่งปิดสูงขึ้น รวมทั้งอัตราผลตอบแทนในสัปดาห์นี้สูงขึ้นเล็กน้อยเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า นอกจากนี้ จากการประมูลในอาทิตย์ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าความต้องการลงทุนในพันธบัตรช่วงอายุยาวค่อนข้างน้อยถึงแม้ว่าในช่วงปลายสัปดาห์จะมีอุปสงค์จากนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาซื้อพันธบัตรช่วงอายุนี้ แต่เมื่อตอบสนองความต้องการหมด อัตราผลตอบแทนก็ปรับขึ้นมาตามแรงขายของนักลงทุนในประเทศ ส่วนนักวิเคราะห์ 1 รายคาดว่า Yield มีแนวโน้มปรับตัวลดลง

คาดว่า SET มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น โดยนักวิเคราะห์ 7 รายคาดว่า SET จะปรับตัวขึ้น เนื่องจากยังมีเงินทุนที่ไหลเข้ามาลงทุนในประเทศที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง หลังจากนักลงทุนเริ่มมองเศรษฐกิจดีขึ้นและเริ่มกลับไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง ส่วนนักวิเคราะห์ 1 รายมองว่า SET จะปรับตัวลง โดยให้ความเห็นว่าควรจะจับตาแนวโน้มดัชนีดอลลาร์สหรัฐ หลังฟื้นตัวจากภาวะ Oversold เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน หากการฟื้นตัวมีความต่อเนื่องจะนำไปสู่การปรับฐานของตลาดหุ้นต่างๆ รวมถึงตลาดหุ้นไทยในระยะต่อไป

นักวิเคราะห์คาดว่าในสัปดาห์นี้นักลงทุนต่างชาติจะซื้อสุทธิใน SET เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ยังต่ำไปถึงกลางปีหน้า ซึ่งจะทำให้นักลงทุนยอมรับ valuation ของตลาดหุ้นไทยที่สูงขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว ส่วนนักลงทุนสถาบันจะขายสุทธิใน SET เนื่องจากทยอยขายทำกำไรและมีการลงทุนแบบ Select ive ในหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรโตดี ขณะที่ยังไม่มั่นใจว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงกว่าระดับปัจจุบันได้มากนัก

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ