รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 28 กันยายน 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 28, 2009 13:47 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 28 ก.ย. 2552

Summary:

1. สศช.ประเมินจีดีพีไตรมาส 3 ปี 52 ส่งสัญญาณชัดเศรษฐกิจฟื้นตัว

2. สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้ายางรถยนต์จีน ส่งผลให้ไทยได้รับอานิสงส์ 3.4 พันล้านบาท

3. ธ.ก.ส. กับออมสินร่วมมือแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้แก่กลุ่มรากหญ้า

Highlight:

1. สศช.ประเมินจีดีพีไตรมาส 3 ปี 52 ส่งสัญญาณชัดเศรษฐกิจฟื้นตัว
  • สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 3 ว่า ข้อมูลในเดือนก.ค.-ส.ค.52 ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จากอัตราการว่างงานกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แรงงานมีรายได้ ส่งผลต่อเนื่องให้การบริโภคในประเทศปรับตัวดีขึ้น แม้ว่าการส่งออกเดือนส.ค.จะยังติดลบ แต่หากพิจารณาโครงสร้างพบว่า การปริมาณการนำเข้าวัตถุดิบไม่ลดลง แต่ลดลงในแง่มูลค่าเพราะราคาวัตถุดิบลดลง อย่างไรก็ตาม ทั้งปี 52 คาดว่าการลงทุนภาคเอกชนยังคงติดลบต่อ ก่อนจะฟื้นตัวในปี 53 หลังรัฐบาลกระตุ้นการลงทุนแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง
  • สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวมาจากอุปสงค์ภายในประเทศที่มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น ทั้งจากเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนจากภาษีมูลค่า ณ ราคาคงที่ และปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งในเดือนสิงหาคมที่หดตัวน้อยลงจากเดือนก่อนหน้ามาก และเครื่องชี้การลงทุนเอกชน วัดจากปริมาณนำเข้าสินค้าทุน และภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นเครื่องชี้การลงทุนในหมวดก่อสร้างก็หดตัวลดลงมากเช่นกัน ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพรามาตรการภาครัฐที่กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งระยะที่ 1 (SP1) ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว และระยะที่ 2 (SP2) หรือแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งที่เริ่มเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 52 จะช่วยเศรษฐกิจไทยเติบโตในระยะต่อไป ทั้งนี้ สศค.ได้ทำการปรับประมาณการเศรษฐกิจ ใหม่ในปี 52 และ 53 เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้นโดยมีการแถลงข่าวในวันนี้ (28ก.ย.52)
2. สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้ายางรถยนต์จีน ส่งผลให้ไทยได้รับอานิสงส์ 3.4 พันล้านบาท
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าจากที่สหรัฐฯ ปรับเพิ่มภาษีสินค้านำเข้ายางรถยนต์นั่ง และรถบรรทุกขนาดเล็กของจากจีน เป็นระยะเวลาทั้งหมด 3 ปี ซึ่งมีผลบังคับใช้จริงวันที่ 26 ก.ย. 52 โดยภาษีนำเข้ายางรถยนต์จากเดิมร้อยละ 4 เพิ่มเป็น ร้อยละ 35 ในปีแรก ร้อยละ 30 ในปีที่สอง และร้อยละ 25 ในปีที่สาม คาดว่าจะเป็นโอกาสสำหรับการขยายการส่งออกของไทย หากความต้องการในตลาดสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น และผู้ประกอบการไทยสามารถปรับเพิ่มการผลิตขึ้นไปถึงระดับเต็มศักยภาพ อย่างไรก็ตาม มูลค่าที่คาดการณ์นี้จะเกิดขึ้นได้ในกรณีที่ไทยสามารถเพิ่มระดับการผลิตได้เต็มกำลังการผลิต และด้านการส่งออกไปสหรัฐฯ ก็สามารถแข่งขันดึงส่วนแบ่งตลาดยางรถยนต์นั่งนำเข้าจากจีน ให้หันมานำเข้าจากไทยได้
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ในปี 51 มูลค่าการส่งออกยางรถยนต์ไทยมีมูลค่า 2,092.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยส่งออกไปยังสหรัฐฯ ประมาณร้อยละ 19.8 ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกยางรถยนต์ของไทยไปยังสหรัฐฯในช่วง 8 เดือนแรกของปี 52 หดตัวร้อยละ -25.3 ต่อปี ทำให้สัดส่วนของการส่งออกยางรถยนต์ไปยังสหรัฐฯ ลดลงเหลือร้อยละ 17.3 อย่างไรก็ตามการเพิ่มภาษีนำเข้ายางรถยนต์นั่งของจีนอาจส่งผลให้การส่งออกยางรถยนต์ไทยไปสหรัฐฯปรับตัวดีขึ้นและอาจทำให้การผลิตยางรถยนต์และการจ้างงานของการผลิตยางรถยนต์ของไทยในช่วงที่เหลือของปี 52 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น
3. ธ.ก.ส. กับออมสินร่วมมือแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้แก่กลุ่มรากหญ้า
  • ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ร่วมกับธนาคารออมสินจะดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในระดับรากหญ้าที่มีปัญหาหนี้นอกระบบเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล โดยจะดำเนินการขึ้นทะเบียนลูกหนี้นอกระบบใหม่ภายในปี 52 เพื่อให้ได้ข้อมูลลูกหนี้นอกระบบล่าสุดที่จะนำไปดำเนินการทำรีไฟแนนซ์ (ปรับโครงสร้างหนี้) ต่อไปทั้งนี้กระทรวงมหาดไทยได้ขึ้นทะเบียนคนจนจำนวน 5 ล้านคนในปี 49 โดยมีกลุ่มหนี้นอกระบบจำนวน 2 แสนคนหรือคิดเป็นจำนวนหนี้สินประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาทและได้รับการแก้ไขจำนวน 1 แสนรายหรือคิดเป็นจำนวนเงิน 6 พันล้านบาท ยังเหลือลูกหนี้อีก 1 แสนรายรวมกับจำนวนลูกหนี้ที่เพิ่มขึ้นอันเป็นผลสืบเนื่องจากภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน
  • สศค. วิเคราะห์ว่าการขึ้นทะเบียนลูกหนี้นอกระบบและดึงเจ้าหนี้เข้าระบบ ถือเป็นหนึ่งในมาตรการของรัฐบาลที่จะช่วยเหลือประชาชนในช่วงการลดช่องว่างระหว่างชนชั้นทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สถาบันการเงินเฉพาะกิจทั้ง 6 แห่ง กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงยุติธรรม ทั้งนี้ ควรมีการผลักดันแผนแม่บททางการเงินให้มีการออกใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจการเงินระดับฐานราก (ไมโครไฟแนนซ์) เพื่อดึงเจ้าหนี้เข้าสู่ระบบและเตรียมการจัดหาวิธีการฟื้นฟู ลูกหนี้ที่เข้าโครงการฟื้นฟูอาชีพด้วย

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ