FPO WEEKLY CONSENSUS (28 กันยายน 2552)

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 29, 2009 17:05 —กระทรวงการคลัง

สรุปความเห็นนักวิเคราะห์ต่อทิศทางตลาดเงินตลาดทุนสัปดาห์นี้

คาดว่าค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้จะแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย โดยนักวิเคราะห์ 6 รายมองว่าในช่วงสัปดาห์นี้เงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย จากตัวเลข U. Michigan Sentiment(Index) ของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ทำให้ตลาดยังคงเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจโลกกำลังจะฟื้นตัวขึ้นทำให้นักลงทุนขายเงิน USD เพื่อลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่ากดดันให้ค่าเงิน USD อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินหลายสกุล ซึ่งจะยังคงส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ส่วนนักวิเคราะห์ 2 รายมองว่า สัปดาห์นี้ค่าเงินบาทอาจจะปรับตัวอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากแรงซื้อกลับเงินดอลลาร์ของนักลงทุน ประกอบกับทิศทางค่าเงินดอลลาร์เริ่มกลับมามีความไม่แน่นอนหลังจาก เริ่มมีความกังวลในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอีกครั้งว่าจะเร็วอย่างที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้จริงหรือไม่ หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาในช่วงหลังเริ่มกลับมาไม่ดีอีกครั้งเป็นผลให้นักลงทุนลดระดับการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงลงจากเดิม เห็นได้จากการปรับตัวลงของตลาดหลักทรัพย์ในประเทศต่างๆ ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งการปรับตัวลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ทั้งน้ำมันและทอง

สำหรับ Bond Yield อายุ 2 ปี จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยนักวิเคราะห์ 3 ราย คาดว่า Yield มีโอกาสปรับตัวในทิศทางขาขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน อันเป็นผลจากความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่ยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่มีสัญญาณการฟื้นตัวขึ้นเป็นลำดับ อย่างไรก็ดีความต้องการพันธบัตรระยะสั้นจากการพักเงินในช่วงสั้นๆ อาจจำกัดการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนระยะสั้นในช่วงสัปดาห์นี้ ส่วนนักวิเคราะห์ 3 รายคาดว่า Yield มีแนวโน้มปรับตัวลดลงเล็ก เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มี ความเสี่ยงต่ำมากขึ้น และทิศทางตลาดหุ้นเริ่มไม่มีทิศทางขาขึ้นที่ชัดเจน ส่วนนักวิเคราะห์ 3 รายคาดว่า Yield ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรช่วงอายุดังกล่าวได้มีการปรับตัวขึ้นมาแล้วในอาทิตย์ที่ผ่านมาสืบเนื่องมาจากผลการประมูลพันธบัตรอายุ 3 ปี ของ ธปท. จึงไม่น่าจะทำให้พันธบัตรในรุ่นอายุนี้มีการเปลี่ยนแปลง

คาดว่า Bond Yield อายุ 10 ปี จะปรับตัวขึ้น โดยมีนักวิเคราะห์ 7 รายมองว่า Yield โอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากจะมีการประมูลพันธบัตรอายุ 11.50 ปี ในอาทิตย์นี้อีก 8 พันล้านบาท ซึ่งผลการประมูลพันธบัตรรุ่นนี้ในอาทิตย์ที่ผ่านมาออกมาสูงกว่าตลาดรองค่อนข้างมากและคาดว่าผลที่ออกมาจะเหมือนกันในสัปดาห์นี้ ส่วนนักวิเคราะห์อีก 1 ราย คาดว่า Yield มีแนวโน้มปรับตัวลดลง และนักวิเคราะห์อีก 1 ราย คาดว่า Yield ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

คาดว่า SET มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยนักวิเคราะห์ 5 รายคาดว่า SET จะปรับตัวขึ้น เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่ยังคงมีแนวโน้มอ่อนค่าในระยะกลาง ส่งผลให้การลงทุนใน สินทรัพย์เสี่ยงยังคงได้รับความน่าสนใจ อีกทั้งราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มฟื้นตัว ส่วนนักวิเคราะห์ 5 รายมองว่า SET น่าจะปรับฐาน โอกาสการเกิด Window dressing น้อยลงหลังดัชนีปรับขึ้นมาแล้วกว่า 20% ในไตรมาส 3 กอรปกับความมั่นใจต่อเศรษฐกิจยังไม่มากพอและมีความกังวลต่อตลาดหุ้นที่มีราคาหุ้นแพงเกินปัจจัยพื้นฐาน ประกอบตัวเลขการผลิตของสหรัฐฯ ที่จะประกาศสัปดาห์นี้อาจลดลง ซึ่งหมายถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็นการรีบาวด์ชั่วคราว

นักวิเคราะห์คาดว่าในสัปดาห์นี้นักลงทุนต่างชาติจะซื้อสุทธิใน SET เนื่องจากตลาดหุ้นเอเชียจะยังดูน่าสนใจเพราะการเติบโตกำไรเพิ่มขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยุโรปจะขยายตัว ได้ไม่มากนัก ค่าเงินเอเชียจะยังแข็งค่าต่อได้เมื่อเทียบกับค่าเงินสหรัฐ และอัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับต่ำ ส่วนนักลงทุนสถาบันจะขายสุทธิใน SET เนื่องจากมีการขายทำกำไร หลังจากที่ดัชนี SET ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ