FPO WEEKLY CONSENSUS (12 ตุลาคม 2552)

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 13, 2009 12:10 —กระทรวงการคลัง

สรุปความเห็นนักวิเคราะห์ต่อทิศทางตลาดเงินตลาดทุนสัปดาห์นี้

คาดว่าค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้จะแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย โดยนักวิเคราะห์ 8 รายมองว่าสัปดาห์นี้ค่าเงินบาทน่าจะยังคงมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นตามค่าเงินในภูมิภาค แต่อาจจะปรับตัวอ่อนค่าได้เล็กน้อยตามแรงแกว่งตัวของค่าเงินดอลลาร์ โดยเงินทุนยังคงไหลเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งในตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งทำสถิติราคาสูงสุดติดต่อกัน โดยปัจจัยที่ต้องจับตามองในสัปดาห์นี้คือการประกาศผลประกอบการณ์ในไตรมาสที่ 3 ของบริษัทต่างๆ และสถานการณ์การเมืองของไทยที่เริ่มมีความวุ่นวายอีกครั้ง รวมทั้งแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของประเทศต่างๆ ที่เริ่มมีความไม่แน่นอนหลังจากธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนนักวิเคราะห์ 2 รายมองว่าสัปดาห์นี้ค่าเงินบาทอาจจะปรับตัวอ่อนค่าลงเล็กน้อย โดยให้ความเห็นว่าตลาดในภูมิภาคมีแรงซื้อดอลลาร์จากการเข้าแทรกแซงของธนาคารกลาง

สำหรับ Bond Yield อายุ 2 ปี จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยนักวิเคราะห์ 8 รายคาดว่า Yield จะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้าเนื่องจากได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มที่คาดว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับการขึ้นดอกเบี้ยของ RBA ทำให้บรรยากาศในการลงทุนเปลี่ยนไปโดยนักลงทุนเริ่มเกรงว่าธนาคารในแถบเอเชียจะมีการเคลื่อนไหวตามธนาคารกลางออสเตรเลียโดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคารกลางของเกาหลี จึงทำให้อัตราผลตอบแทนในประเทศมีการปรับตัวขึ้นมากในอาทิตย์ที่ผ่านมาและยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นอีกในอาทิตย์นี้เนื่องจากยังจะมีการประมูลพันธบัตรอายุ 5.5 ปีอีก มูลค่า 13,000 ล้านบาท ส่วนนักวิเคราะห์ 1 ราย คาดว่า Yield มีแนวโน้มทรงตัวหรือเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเนื่องจากตลาดได้ ซึมซับการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายรัฐบาลออสเตรเลียในระดับหนึ่งแล้ว ประกอบกับการที่ ECB ประกาศคงดอกเบี้ยนโยบาย โดยยังให้ความสำคัญกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ จึงน่าจะเป็นปัจจัยทำให้ผ่อนคลายความกังวลของตลาดได้ ส่วนนักวิเคราะห์ 1 ราย คาดว่า Yield มีแนวโน้มปรับตัวลดลงเล็กน้อย

คาดว่า Bond Yield อายุ 10 ปี จะปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยมีนักวิเคราะห์ 8 รายมองว่า Yield คาดว่าจะปรับตัวขึ้นแต่ไม่มากนักหากเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าสัปดาห์นี้จะมีการประมูลพันธบัตรระยะยาวในช่วงกลางสัปดาห์ แต่ปริมาณที่ไม่มากนักจึงไม่น่าส่งผลกระทบต่อตลาดมากนัก ขณะเดียวกันปัจจัยจากต่างประเทศหรืออัตราผลตอบแทนระยะยาวของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะปรับตัวขึ้นอย่างจำกัดเนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เป็นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่วนนักวิเคราะห์อีก 1 รายคาดว่า Yield ไม่มีการเปลี่ยนแปลงและนักวิเคราะห์อีก 1 ราย คาดว่า Yield จะลดลงเล็กน้อย

คาดว่า SET มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยนักวิเคราะห์ทั้ง 10 รายคาดว่า SET จะปรับตัวขึ้น เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนทั้งไทยและสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวสะท้อนว่าผ่านพ้นช่วงต่ำสุดของวิกฤตเศรษฐกิจอย่างชัดเจน

นักวิเคราะห์คาดว่าในสัปดาห์นี้นักลงทุนต่างชาติจะซื้อสุทธิใน SET จากเงินทุนที่ยังคงมีทิศทางเป็นบวกจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่างลง อีกทั้งหุ้นที่มีการซื้อขายมีค่าพีอีต่ำกว่าค่าเฉลี่ยภูมิภาค ส่วนนักลงทุนสถาบันจะซื้อสุทธิใน SET เนื่องจากคาดว่ามีการทำ Window Dressing

ความเห็น สศค.

สำหรับสัปดาห์นี้ประเด็นสำคัญคือ การเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหลักทรัพย์คาดว่ามีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว ตามทิศทางปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นต่างประเทศ และจากแรงเก็งกำไรต่อผลประกอบในไตรมาส 3 ปี 52 ส่วนค่าเงินบาทคาดว่ายังคงมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องจากแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลงในช่วง 1- 4 เดือนข้างหน้า จากนักลงทุนเริ่มมั่นใจต่อทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่วนปัจจัยที่ต้องจับตาคือ ประเด็นการเมืองของไทย และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ รวมถึงการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ