รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 15 ตุลาคม 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 15, 2009 11:12 —กระทรวงการคลัง

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 15 ต.ค. 2552

Summary:

1. ธอส.เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการอสังหาฯ มั่นใจเศรษฐกิจและการเมือง

2. ฟิลิปปินส์เปิดตลาดประมูลรับข้าวครั้งใหญ่

3. ส่งออกจีนหดตัวชะลอลงมากที่ร้อยละ -15.2 ต่อปี เศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณฟื้นตัวชัดขึ้น

Highlight:
1. ธอส.เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการอสังหาฯ มั่นใจเศรษฐกิจและการเมือง
  • ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย 150 ราย ประจำไตรมาส 3/2552 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 55.8 เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2552 ที่ดัชนีอยู่ที่ระดับ 48.1 ถือเป็นการฟื้นตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 และถือเป็นระดับสูงที่สุดเท่าที่เคยจัดทำ หลังจากเคยอยู่ระดับต่ำสุดที่ 36.3 ในไตรมาส 4/2551 โดยบริษัทจดทะเบียนมีความเชื่อมั่นปรับตัวดีขึ้นมาก และมีค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 61.9 ขณะที่บริษัทไม่ได้จดทะเบียนมีค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 49.6 โดยมีค่าต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 แสดงถึงความเชื่อมั่นที่ยังไม่ดีพอ ทั้งนี้ ดัชนีความคาดหวังในอีก 6 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 69.9 สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2550 และปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาส 2/2552 ซึ่งมีค่าอยู่ที่ระดับ 62.2
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการอสังหาฯ ที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับเครื่องชี้การลงทุนด้านการก่อสร้างที่เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว โดยล่าสุดเดือน ส.ค. 52 ยอดขายปูนซีเมนต์ขยายตัวร้อยละ 1.8 ต่อปี ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และยอดขายเหล็กขยายตัวสูงถึงร้อยละ 11.9 ต่อปี ทั้งนี้ สถานการณ์การลงทุนด้านอสังหาฯ และการก่อสร้างในระยะต่อไปคาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง อันเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งที่คาดว่าจะก่อให้เกิดการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล และสถานการณ์ทางการเมืองที่เริ่มมีเสถียรภาพเพิ่มขึ้น
2. ฟิลิปปินส์เปิดตลาดประมูลรับข้าวครั้งใหญ่
  • สำนักงานอาหารแห่งชาติของฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า จะเปิดประมูลนำเข้าข้าวปริมาณสูงถึง 2.5 แสนตันในวันที่ 30 ต.ค.เพื่อการส่งมอบเดือน ม.ค.-มิ.ย. 53 โดยได้ส่งคำเชิญให้กับผู้ส่งออกข้าว 30 ราย จากไทย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก รวมถึงเวียดนาม ผู้ส่งออกอันดับ 2 ตามมาด้วยจีน ปากีสถาน ออสเตรเลีย สหรัฐ และอินเดีย ซึ่งการตัดสินใจนำเข้าข้าวครั้ง มโหฬารนี้อาจเกื้อหนุนให้ราคาข้าวปรับขึ้นมา หลังจากที่ต้องปรับลดลงอย่างต่อเนื่องถึง 12% ในปีนี้ โดยล่าสุดราคาข้าวในตลาดล่วงหน้าชิคาโกปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 13.9 เหรียญสหรัฐต่อ 100 ปอนด์
  • สศค. วิเคราะห์ว่า ประเทศฟิลิปปินส์ต้องนำเข้าข้าวในปริมาณที่สูงมากเนื่องจากประสบกับปัญหาภัยธรรมชาติที่รุนแรง ทั้งพายุไต้ฝุ่นกิสนาและพายุไต้ฝุ่นป้าหม่า ทำให้พื้นที่เพาะปลูกข้าวประสบความเสียหายอย่างหนัก และปริมาณข้าวในสต๊อกลดลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกให้ราคาข้าวสารส่งออกของไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาผลผลิตข้าวของไทยพบว่า สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรประมาณการณ์ว่าพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปี 52/53 จะอยู่ที่ 57.2 ล้านไร่ ลดลงเล็กน้อยจากปีที่ผ่านมาที่ 57.4 ล้านไร่ ทำให้คาดว่าผลผลิตข้าวนาปีจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ซึ่งส่งผลให้ราคาข้าวผันผวนได้ง่ายหากมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบ (supply constraints)
3. ส่งออกจีนหดตัวชะลอลงมากที่ร้อยละ -15.2 ต่อปี เศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณฟื้นตัวชัดขึ้น
  • การส่งออกของจีนในเดือนกันยายนหดตัวชะลอลงเมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม โดยหดตัวที่ร้อยละ -15.2 ต่อปี เมื่อเทียบกับเดือนก่อนที่หดตัวร้อยละ -23.4 ต่อปี บ่งชี้ถึงสถานการณ์การค้าโลกที่ปรับตัวดีขึ้น โดยการส่งออกไปยังสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปมีมูลค่าสูงสุด นับตั้งแต่การส่งออกของจีนได้หดตัวลงในเดือนพ.ย. 51 ขณะที่การนำเข้าหดตัวเพียงร้อยละ -3.5 ต่อปี จากร้อยละ -17.0 ต่อปีในเดือนก่อน ทั้งนี้ จากผลสำรวจของนักวิเคราะห์ได้ให้ความเห็นว่า เศรษฐกิจจีนในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ จะขยายตัวที่ร้อยละ 8.9 ต่อปี เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ร้อยละ 7.9 ต่อปี
  • สศค. วิเคราะห์ว่า การส่งออกและนำเข้าของจีนที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมากในเดือนก.ย. 52 ชี้ให้เห็นถึงอุปสงค์ทั้งภายในที่แข็งแกร่งและจากอุปสงค์ภายนอกที่เริ่มฟื้นตัว ถือได้ว่า เศรษฐกิจจีนเป็นกำลังสำคัญในการฉุดดึงเศรษฐกิจโลกให้ฟื้นตัวจากภาวะวิกฤติในครั้งนี้ ซึ่งไทยได้รับอานิสงส์จากจีนผ่านทางการส่งออก โดยในเดือนส.ค. 52 การส่งออกไปจีนกลับมาขยายตัวที่ร้อยละ 1.2 ต่อปี และคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นในเดือนก.ย. 52 ทำให้การส่งออกของไทยหดตัวชะลอลงมาก ทั้งนี้ สศค.คาดว่า เศรษฐกิจจีนในไตรมาส 3 ปี 52 จะขยายตัวร้อยละ 8.5 ต่อปี โดยทั้งปี 52 จะขยายตัวร้อยละ 7.9 ต่อปี และในปี 53 จะขยายตัวที่ร้อยละ 9.0 ต่อปี (ประมาณการ ณ เดือนกันยายน 2552)

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ