รายงานภาวะเศรษฐกิจญี่ปุ่น ประจำสัปดาห์วันที่ 12 - 16 ตุลาคม 2552

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 20, 2009 10:49 —กระทรวงการคลัง

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจ ดังนี้

1. เดือน ส.ค. 52 จำนวนคำสั่งซื้อเครื่องจักรของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5

2. ครึ่งปีแรกของปี 2552 จำนวนบริษัทเอกชนล้มละลาย ลดลงร้อยละ 1.6

3. จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้พิจารณาจัดทำเขตการค้าเสรี

4. งบประมาณประจำปี 2553 มีจำนวนมากกว่า 90 ล้านล้านเยน สูงสุดเป็นประวัติการณ์

5. รัฐบาลจะให้เงินสนับสนุนโดยตรงแก่ชาวนาที่ขาดทุนจากการปลูกข้าว

-----------------------------------

1. เดือน ส.ค. 52 จำนวนคำสั่งซื้อเครื่องจักรของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5

Cabinet office รายงานว่าคำสั่งซื้อเครื่องจักรเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ในเดือน ส.ค. 52 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า มีมูลค่ารวม 668.1 พันล้านเยน ซึ่งเพิ่มเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือนแต่เพิ่มน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 2.1 โดยคำสั่งซื้อของผลิตภัณฑ์ภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 ขณะที่คำสั่งซื้อของผลิตภัณฑ์นอกภาคอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ 0.6

2. ครึ่งปีแรกของปี 2552 จำนวนบริษัทเอกชนล้มละลาย ลดลงร้อยละ 1.6

Tokyo Shoko Research Ltd. ซึ่งรวบรวมข้อมูลบริษัทล้มละลายของญี่ปุ่น เปิดเผยว่าช่วงครึ่งปีแรกของปี 2552 บริษัทเอกชนญี่ปุ่นล้มละลายลดลงร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้ามีจำนวน 7,736 บริษัท ซึ่งการลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ผลมาจากมาตรการรัฐบาลที่สนับสนุนผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

3. จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้พิจารณาจัดทำเขตการค้าเสรี

ภายหลังจีนจัดประชุมเศรษฐกิจในระดับผู้นำประเทศของ ญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2552 ณ กรุงปักกิ่ง โดย 3 ประเทศตกลงร่วมมือกันกำหนดแผนระยะยาวเพื่อพัฒนาประชาคมเศรษฐกิจเอเชียตะวันออก (East Asian Community) และพิจารณาจัดทำเขตการค้าเสรี (FTA) การให้ความร่วมมือทางด้านการเงิน พลังงาน และสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ระหว่าง 3 ประเทศในอนาคต โดยจะเริ่มทำความตกลงด้านการลงทุนก่อน ให้แล้วเสร็จภายในปี 2553 นอกจากนี้ ยังหารือร่วมกันในสาขาที่ทั้งสามประเทศเห็นประโยชน์ร่วมกันเช่น สาขาอุตสาหกรรมบางประเภท ซึ่งปัจจุบันภาคเอกชนจากจากทั้ง 3 ประเทศได้เริ่มศึกษาไปบ้างแล้ว

นาย Yukio Hatoyama นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นได้มีนโยบายที่จะกระชับความสัมพันธ์กับประเทศในภูมิภาคอาเซียมากขึ้น แต่ไม่มีความคิดที่จะกันสหรัฐฯ ออกจากการเข้าร่วมเป็นสมาชิกประชาคมฯ ครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ประชาคมเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกยังมีอุปสรรคในการพัฒนาในอนาคตอีกมาก เนื่องจากในความหมายของญี่ปุ่นหมายถึง อาเซียน 10 ประเทศ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ รวม 16 ประเทศ แต่จีนหมายถึง อาเซียน 10 ประเทศ + จีน เกาหลี ญี่ปุ่น รวม 13 ประเทศเท่านั้น ในขณะที่เกาหลีใต้ในฐานะประเทศเล็กยังเคลือบแคลงใจเพราะเกรงจะอยู่ภายใต้อิทธิพลทางเศรษฐกิจของจีนหรือญี่ปุ่น ในขณะที่สหรัฐฯ กำลังจับตามองความเคลื่อนไหวครั้งนี้อย่างใกล้ชิด

ในระหว่างการหาเสียง DPJ พรรครัฐบาลญี่ปุ่นปัจจุบันได้ประกาศว่าจะหาทางสรุปผลการเจรจา FTA ระหว่างสหรัฐฯและญี่ปุ่น อย่างไรก็ตามแผนดังกล่าวดูเหมือนจะไม่ราบรื่นแล้ว เนื่องจากสหรัฐฯต้องการรวมภาคเกษตรในการเจรจาด้วย แต่ญี่ปุ่นไม่ต้องการเพราะชาวนามีอิทธิพลมาก และเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคการเมืองในญี่ปุ่น

4. งบประมาณประจำปี 2553 ของรัฐบาลใหม่มีจำนวนมากกว่า 90 ล้านล้านเยน สูงสุดเป็นประวัติการณ์

รัฐบาลใหม่เตรียมจัดทำข้อเสนองบประมาณรายจ่ายสำหรับปีงบประมาณ 2553 จำนวนเงินมากกว่า 90 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดในประวัติการณ์ เพื่อให้เป็นไปตามที่ได้สัญญากับประชาชนระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุด ทั้งนี้ กระทรวงต่าง ๆ ได้ยื่นข้อเสนอของบประมาณให้กระทรวงการคลังภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2552 แล้วโดยมีกระทรวงสาธารณสุขแรงงานและสวัสดิการ (Ministry of Health, Labor and Welfare) ของบประมาณเพื่อสนับสนุนการดูแลบุตร และเพื่อสนับสนุนลูกจ้างชั่วคราวของบริษัทให้มีประกันสังคม วงเงิน 2.26 ล้านล้านเยน และ 268.1 พันล้านเยนตามลำดับ กระทรวงการศึกษาธิการ วัฒนธรรม กิฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่ (Ministry of Education, Culture, Sports, Science and Technology) ขอจัดงบประมาณเพื่อค่าเล่าเรียนฟรีสำหรับการศึกษามัธยมปลายวงเงิน 462.4 พันล้านเยน กระทรวงที่ดิน สาธารณูปโภค คมนาคม และท่องเที่ยว (Ministry of Land, Infrastructure, Transportation and Tourism) จัดงบประมาณชดเชยค่าธรรมเนียมทางด่วนฟรี เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ วงเงิน 60 พันล้านเยน และกระทรวงเกษตร ป่าไม้และประมง (Ministry of Agriculture Forestry and Fisheries) จัดงบประมาณจำนวน 344.7 พันล้านเยนเพื่อสนับสนุนเกษตรกรที่ปลูกข้าวโดยตรง โดยจะจ่ายค่าชดเชยให้หากขาดทุนจากการปลูกข้าว

5. รัฐบาลจะจัดสรรเงินสนับสนุนโดยตรงแก่ชาวนาที่ขาดทุนจากการปลูกข้าว

ตามที่รัฐบาลได้หาเสียงไว้ช่วงระหว่างเลือกตั้งว่ารัฐบาลจะจัดสรรเงินงบประมาณจำนวน 1 ล้านล้านเยนเพื่ออุดหนุนการปลูกข้าว เช่นข้าว ข้าวสาลี และจัดสรรเงินจำนวน 400 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่ออุดหนุดเกษตรกรที่การผลิตนม ปศุสัตว์ และชาวประมง

ภายใต้โครงการนี้ รัฐบาลจะจ่ายงบประมาณอุดหนุนเพิ่มเติมจากโครงการกำหนดเป้าหมายให้เกษตรกรลดพื้นที่การปลูกข้าว โดยเกษตรที่ขาดทุนจากการลดการผลิตตามเป้าหมายของรัฐบาลจะได้รับเงินชดเชยส่วนนี้โดยตรง ส่วนเกษตรกรที่ไม่เข้าโครงการตั้งเป้าลดการผลิตจะต้องรับผิดชอบความเสี่ยงที่เกิดจากความผันผวนของราคาพืชผลเกษตรเอง

รัฐบาลเร่งประกาศใช้มาตรการนี้เพื่อหวังผลที่จะชนะการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกที่จะมีขึ้นก่อนฤดูร้อนในปี 2553

สำนักงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและการคลัง ณ กรุงโตเกียว

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ