FPO WEEKLY CONSENSUS (26 ตุลาคม 2552)

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 28, 2009 11:26 —กระทรวงการคลัง

สรุปความเห็นนักวิเคราะห์ต่อทิศทางตลาดเงินตลาดทุนสัปดาห์นี้

คาดว่าค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้จะทรงตัว โดยนักวิเคราะห์ 1 ราย มองว่าเงินบาทในสัปดาห์นี้จะทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่ที่มีผลต่อค่าเงินบาท เช่น เม็ดเงินลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของนักลงทุนต่างชาติและการเคลื่อนไหวของค่าเงินในภูมิภาคที่เป็นปัจจัยหลัก ส่วนนักวิเคราะห์ 7 รายมองว่าสัปดาห์นี้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มหลักแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากทิศทางเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนในตลาดโลกขายเงิน USD เพื่อเข้าลงทุนสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า เช่น ทองคำ และน้ำมัน หลังจากที่ผลประกอบการไตรมาส 3 ของหลายบริษัทในสหรัฐอเมริกาออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และนักวิเคราะห์ 4 รายมองว่าค่าเงินบาทอาจจะอ่อนค่าลงเล็กน้อย โดยการเคลื่อนไหวของเงินบาทยังคงถูกชี้นำจากภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นเป็นสำคัญ ทั้งนี้ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยที่ชะลอความร้อนแรงประกอบกับสถานการณ์ความไร้เสถียรภาพทางการเมืองในประเทศเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และคาดว่าจะทำให้การแข็งค่าของเงินบาทเป็นไปอย่างจำกัด

สำหรับ Bond Yield อายุ 2 ปี จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยนักวิเคราะห์ 9 รายคาดว่า Yield เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากพันธบัตรไทยจะปรับราคาลดลงตามแนวโน้มราคาพันธบัตรทั่วโลกที่ปรับลดลงจากเศรษฐกิจโลกบางประเทศเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว ทำให้เริ่มมีการคาดการณ์ว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยบ้างในบางประเทศอาจส่งผลถึงประเทศไทย ส่วนนักวิเคราะห์ 1 ราย คาดว่า Yield ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากอัตราผลตอบแทนของรุ่นอายุนี้ได้ปรับตัวขึ้นมามากเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา สืบเนื่องมาจากผลการประมูลพันธบัตร ธปท. รุ่นนี้ออกมาค่อนข้างสูงถึงแม้ว่าจะไม่ได้ตามเป้าหมายที่ธปท. ได้เสนอขาย จึงทำให้นักลงทุนรอดูจังหวะเพื่อลงทุนแทนที่จะขายของเดิมออกมา และนักวิเคราะห์ 2 ราย คาดว่า Yield มีแนวโน้มปรับตัวลดลงเล็กน้อย

คาดว่า Bond Yield อายุ 10 ปี จะปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยมีนักวิเคราะห์ 9 รายมองว่า Yield คาดว่าจะปรับตัวขึ้น โดยเป็นการปรับตัวตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะไม่ปรับตัวขึ้นเร็วท่ามกลางการคาดการณ์เงินเฟ้อที่ยังไม่ปรับตัวขึ้นในระยะนี้ ประกอบกับสัปดาห์นี้มีการประมูลพันธบัตร 15 ปี อาจกระทบถึงพันธบัตร 10 ปีได้ ส่วนนักวิเคราะห์ 1 ราย คาดว่า Yield ไม่มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากความไม่แน่นอนของตลาดหุ้นอาจจะทำให้มีนักลงทุนเริ่มหันกลับมาลงทุนในตลาดพันธบัตร แต่เนื่องจากยังมีนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาเก็งกำไรค่าเงินรอที่จะขายพันธบัตรอยู่ จึงทำให้นักลงทุนยังรอจังหวะเพื่อเข้าซื้ออยู่ และนักวิเคราะห์อีก 2 รายคาดว่า Yield จะลดลงล็กน้อย

คาดว่า SET มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น โดยนักวิเคราะห์ 7 รายคาดว่า SET จะปรับตัวขึ้น เนื่องจากข่าวดีการรีบาวด์ของตลาดต่างประเทศ สถานการณ์การเมืองในประเทศช่วงประชุมอาเซียนไม่มีอะไรรุนแรง และ GDP Growth ของประเทศแถบเอเชียที่ทยอยประกาศจะเป็นบวกสะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่วนนักวิเคราะห์อีก 3 รายคาดว่า SET จะปรับตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากแนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์อ่อนตัวลงจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นในช่วงสั้น ประกอบกับตลาดหุ้นต่างประเทศมีแนวโน้มผันผวนเพิ่มขึ้น ตามทิศทางตัวเลขเศรษฐกิจและรายงานผลประกอบการที่ออกมา

นักวิเคราะห์คาดว่าในสัปดาห์นี้นักลงทุนต่างชาติจะขายสุทธิใน SET เนื่องจากคาดว่าเริ่มเข้าฤดูกาลที่ต่างชาติจะขายทำกำไรปิดสถานะในหุ้นเพื่อเข้าช่วงกลับบ้านเทศกาลคริสมาสต์ก่อนกลับมาซื้อรับ January Effect เดือน ม.ค.-ก.พ. ส่วนนักลงทุนสถาบันจะซื้อสุทธิใน SET เนื่องจากซื้อเพื่อเก็งกำไร

ความเห็น สศค.

สำหรับสัปดาห์นี้คาดว่า Bond Yield อายุ 2 ปี และ 10 ปี จะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3 สัปดาห์ ( Bond Yield อายุ 2 ปี จาก 2.01 เป็น 2.28 และอายุ 10 ปี จาก 4.12 เป็น 4.37 ใน 3 สัปดาห์ ) โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากเศรษฐกิจประเทศต่างๆ ที่ส่งสัญญาณขยายตัวดี ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและการปรับอัตราดอกเบี้ยของประเทศต่างๆ เร็วขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ