รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 3 พฤศจิกายน 2552

Macro Morning Focus ประจำวันที่ 3 พ.ย. 2552

1. ราคาสินค้าเดือนต.ค.พุ่งสูงสุดรอบปี

2. กระทรวงพาณิชย์ เผยสถานการณ์ข้าวในประเทศและราคามีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น

3. ดัชนีภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ เดือน ต.ค. 52 สูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง

• ปลัดกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (เงินเฟ้อ) เดือน ต.ค. 52 เท่ากับ 105.5 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 ต่อปี ถือว่าสูงขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือนปีนี้ และสูงขึ้นร้อยละ 0.2 เทียบกับเดือนก่อน ส่งผลให้เงินเฟ้อเฉลี่ย 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค.) ปีนี้ หดตัวร้อยละ -1.5 ต่อปี สำหรับสาเหตุที่เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 0.4 มาจากดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่สูงขึ้นร้อยละ 1.6 ต่อปี สำหรับอัตราเงินเฟ้อปี 53 คาดว่าจะเติบโตร้อยละ 3.0 ถึง 3.5 ต่อปี โดยราคาสินค้ามีแนวโน้มสูงขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว

• สศค. วิเคราะห์ว่า อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4 ปีนี้ และต่อเนื่องไปยังปี 53 โดยมีสาเหตุหลักจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ จะทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ต่อปี อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (หักหมวดอาหารและพลังงาน) คาดว่าจะยังคงหดตัวที่ร้อยละ -0.1 ต่อปี จากนโยบายลดค่าครองชีพของรัฐบาล ทั้งนี้ สศค. คาดว่าอัตราเงินเฟ้อในปี 52 จะหดตัวที่ร้อยละ -0.8 ต่อปี และในปี 53 จะขยายตัวร้อยละ 2.0 - 3.0 ต่อปี ส่งผลให้คาดว่าในช่วงที่เหลือของปี กนง.จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.25 ต่อปี และคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นในปี 53 เมื่อเศรษฐกิจมีความเสี่ยงลดลง

• รมว. พาณิชย์ เผยความคืบหน้าการเปิดจุดรับซื้อข้าวเปลือกเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 52 ว่า มีโรงสีสมัครเข้าร่วมโครงการ 18 โรง ใน 10 จังหวัด ขณะที่สถานการณ์ข้าวภายในประเทศในปัจจุบันมีแนวโน้มดีขึ้น นอกจากนี้ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทยเปิดเผยว่า ราคาข้าวสารที่รับซื้อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้นทุกชนิด อาทิ ข้าวขาว 5% ปรับเพิ่มจากตันละ 1.49 หมื่นบาทเป็น 1.5 หมื่นบาท ปรับเพิ่มขึ้นตันละ 1,000 บาท ข้าวหอมมะลิปรับขึ้นจาก 2.5 หมื่นบาท เป็น 2.8 หมื่นบาท หรือปรับเพิ่มขึ้นตันละ 3,000 บาท ปัจจัยสำคัญเนื่องมาจากอินเดียประสบปัญหาภัยแล้ง จนอาจต้องนำเข้าข้าวจาก ฟิลิปปินส์ อิหร่าน และอิรัก ดังนั้น รัฐบาลควรทยอยระบายข้าวสารในสต๊อกออกมาเพื่อรองรับกับความต้องการในตลาดโลกที่เพิ่มมากขึ้น

• สศค. วิเคราะห์ว่า สถานการณ์ข้าวในประเทศและราคาที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นมีสาเหตุสำคัญมาจากสถานการณ์ภัยแล้งและอุทกภัยของประเทศผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ของโลก ซึ่งราคาสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้นจะจูงใจให้เกษตรกรเพาะปลูกเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันจะส่งผลดีต่อรายได้เกษตรกรที่ยังคงหดตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนปรับตัวเพิ่มขึ้นตามด้วย ทั้งนี้ สถานการณ์ล่าสุด 9 เดือนแรกของปี 52 รายได้เกษตรหดตัวร้อยละ -13.0 ต่อปี ขณะที่รายได้เกษตรกรที่แท้จริงหดตัวร้อยละ -13.2 ต่อปี

• ดัชนีภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ (ISM Mfg Index) เดือน ต.ค. 52 อยู่ที่ระดับ 55.7 สูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 52.6 และสูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง สะท้อนว่าภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ กลับมาฟื้นตัวแล้ว ทั้งนี้ การปรับตัวดีขึ้นของดัชนีดังกล่าว มีสาเหตุมาจากการผลิตที่เพิ่มมากขึ้นเป็นสำคัญ ในขณะที่การสะสมสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลง โดยจากการสำรวจพบว่า จาก 18 กลุ่มอุตสาหกรรมมี 13 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ดัชนีดังกล่าวปรับตัวดีขึ้น

• สศค. วิเคราะห์ว่า จากการปรับตัวดีขึ้นของดัชนีภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ในเดือน ต.ค. 52 ประกอบกับการปรับตัวดีขึ้นของดัชนีการจ้างงานล่าสุดในเดือน ต.ค. 52 ที่อยู่ที่ระดับ 53.1 จากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 46.2 ส่งผลให้คาดว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จะมีทิศทางขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 3 ปี 52 ที่ขยายตัวร้อยละ 3.5 (%SAAR) ทั้งนี้ นักวิเคราะห์บางส่วนคาดว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 4 ปี 2552 อาจจะขยายตัวถึงร้อยละ 4.5 (%SAAR)

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th