FPO WEEKLY CONSENSUS (2 พฤศจิกายน 2552)

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 3, 2009 10:40 —กระทรวงการคลัง

สรุปความเห็นนักวิเคราะห์ต่อทิศทางตลาดเงินตลาดทุนสัปดาห์นี้

คาดว่าค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้จะอ่อนค่าลงเล็กน้อย โดยนักวิเคราะห์ 8 ราย มองว่าเงินบาทในสัปดาห์นี้จะอ่อนค่าลงเล็กน้อย เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ยังคงมีทิศทางที่ไม่ชัดเจนหลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการประกาศตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 3 ของสหรัฐฯ ออกดีกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ แต่ก็ไม่ทำให้นักลงทุนลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีความกังวลในความชัดเจนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทำให้เริ่มมีการลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงซึ่งจะเห็นได้จากนักลงทุนต่างชาติที่ทยอยขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ออกมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับนักลงทุนเริ่มออกมาซื้อเงินดอลลาร์กลับคืนเพื่อทำกำไรหลังจากที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงมามากในช่วงเดือนที่ผ่านมา กดดันให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ส่วนนักวิเคราะห์ 4 รายมองว่าสัปดาห์นี้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ดีแนวโน้มการเลี่ยงความเสี่ยงและการขายทำกำไรสกุลเงินภูมิภาคอาจเป็นปัจจัยจำกัดการแข็งค่าของเงินบาท ปัจจัยที่ต้องติดตามในช่วงสัปดาห์นี้ ได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) ว่าจะมีการส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ รวมถึงข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่จะบ่งชี้ถึงช่วงเวลาที่ทางการจะสามารถหันมาดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น

สำหรับ Bond Yield อายุ 2 ปี จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยนักวิเคราะห์ 10 รายคาดว่า Yield เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อนหน้า เนื่องจากคาดว่าราคาพันธบัตรจะปรับราคาลดลงตามแนวโน้มราคาพันธบัตรทั่วโลกที่ปรับลดลง ส่วนนักวิเคราะห์ 1 ราย คาดว่า Yield มีแนวโน้มปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยให้ความเห็นว่าเนื่องจากนักลงทุนเริ่มไม่แน่ใจถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อาจมีการโยกเงินมาลงที่พันธบัตรบ้าง และนักวิเคราะห์อีก 1 ราย คาดว่าไม่เปลี่ยนแปลง

คาดว่า Bond Yield อายุ 10 ปี จะปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยมีนักวิเคราะห์ 8 รายมองว่า Yield จะปรับตัวขึ้น เนื่องจากการปรับขึ้นประมาณการณ์ GDP ของปี 2010 ทำให้ตลาดมีความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นและทำให้ความต้องการลงทุนในพันธบัตรลดลง แต่การที่ IRS ไม่ปรับตัวขึ้นตามอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรน่าจะทำให้การขึ้นของYield พันธบัตรในระยะนี้ไม่ดีดตัวขึ้นแรงมาก ส่วนนักวิเคราะห์อีก 3 รายคาดว่า Yield จะลดลงล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนเริ่มไม่แน่ใจถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และนักวิเคราะห์อีก 1 ราย คาดว่าไม่เปลี่ยนแปลง

คาดว่า SET มีแนวโน้มปรับตัวลง โดยนักวิเคราะห์ 6 รายคาดว่า SET จะปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติยังคงลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดภูมิภาค และเริ่มทยอยขายสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกหลังให้ผลตอบแทนที่สูงตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ส่วนนักวิเคราะห์อีก 1 รายคาดว่า SET จะปรับตัวขึ้นเล็กน้อย

นักวิเคราะห์คาดว่าในสัปดาห์นี้นักลงทุนต่างชาติจะขายสุทธิใน SET เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติกำลังปรับลดพอร์ตลงทุนในหุ้นลงเพื่อถือเงินสดหรือซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าแทน และยังคงขายทำกำไรจากค่าเงินดอลลาร์ที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นในช่วงสั้น ส่วนนักลงทุนสถาบันจะซื้อสุทธิใน SET เนื่องจากการซื้อเพื่อทยอยเก็บสะสมจาก January Effect

ความเห็น สศค.

สำหรับสัปดาห์นี้คาดว่า SET มีแนวโน้มปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติได้ทยอยขายออกมาอย่างต่อเนื่องแทบทั้งภูมิภาคเอเชียตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่แล้วเพื่อการลดความเสี่ยงและทำกำไรหลังจากที่ราคาหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นสูง สำหรับประเทศไทยคาดว่า SET จะได้รับแรงกดดันจากตลาดทุนต่างประเทศรวมทั้งการขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 4 หลังจากขายสุทธิต่อเนื่องมา 3 สัปดาห์

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ